สมาชิกเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมแจ้งตำรวจบุรีรัมย์จับป้าขายน้ำกระท่อมริมถนนประโคนชัย
วันที่ 8 ก.พ.68 พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รรท.ผบก.ภ.จว. บุรีรัมย์ รับแจ้งจากสมาชิกเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับสถานีตำรวจ ว่ามีร้านค้าแอบลักลอบจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อมให้แก่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ในเขตอ.เมืองบุรีรัมย์
สั่งการให้ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ และพ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำกำลัง ตรวจสอบและจับกุมนางวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ชาวจ.เชียงราย ริมถนนสายบุรีรัมย์ – ประโคนชัย พร้อมของกลางน้ำต้มพืชกระท่อม 6 ขวด , น้ำหวานยี่ห้อหนึ่ง รสองุ่น 1 ขวด ขณะกำลังจำหน่ายน้ำกระท่อมให้กับลูกค้า
เบื้องต้นตั้งข้อหา จำหน่ายน้ำต้มกระท่อมที่มีหรือส่วนของพืชกระท่อม ทั้งต้นและสารสกัด อันเป็นอาหารที่ห้ามผลิตนำเข้า หรือจำหน่าย โดยไม่ผ่านการประเมินความปลอดภัยของอาหารและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไม่ได้ตรวจอนุมัติฉลากก่อนนำไปใช้ตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงสาธารณะสุขว่าด้วยอาหารใหม่ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
มีรายงานว่าการจับกุมครั้งนี้เนื่องมาจาก ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จัดอบรมสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรม เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม 500 คน ทำให้มีสมาชิกเครือข่ายที่ผ่านการอบรมแจ้งเข้ามาให้ทราบ
ด้านพ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รรท.ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่าปัญหาอาชญากรรมในปัจจุบันและอนาคตมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลกระทบกับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำความผิดอาญาการป้องกันอาชญากรรม
จำเป็นต้องมีการบูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ให้มีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรม โดยการสร้างเครือข่ายภาคประชาชน เด็กและเยาวชน บูรณาการความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชนสนับสนุนเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจในการเฝ้าระวังป้องกันอาชญากรรม และร่วมรับผิดชอบต่อสังคมให้ปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรม
จากความสำคัญดังกล่าว ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้จัดทำโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับสถานีตำรวจขึ้น เพื่อเป็นการแสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขอาชญากรรมในพื้นที่ อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานของสถานีตำรวจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น