วันที่ 25 ธันวาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ร.ต.ท.พีระเกียรติ ศิริฤทัยวัฒนา ร.ต.ท.ไพโรจน์ บุรีรักษ์ ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ สนิทไทย ร่วมกันจับกุม
นายอภิชัย หรือแอ็ด อายุ 37 ปี ชาวจ.กาญจบุรี ตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 515/2566 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ฐาน “ฉ้อโกง” จับกุมได้ที่โรงงานเหล็ก ถนนแสงชูโต ต.ตะค้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ตรวจสอบหมายจับในฐานระบบ ยังมีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย ของศาลจังหวัดตราด หมายจับที่ 112/2566 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ”
พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้เสียหายได้ถูกมิจฉาชีพหลอกอ้างเป็นนายหน้า มีเเรงงานที่จะมาทำงานที่ทางผู้เสียหายได้ประกาศรับสมัครพนักงานปั้มเเก๊ส เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพเข้าบัญชีชื่อผู้ต้องหาไป 20,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย และมีผู้เสียหายอีกรายก็ได้พบประกาศขายรถหัวลากในเฟซบุ๊ก เมื่อผู้เสียหายติดต่อขอซื้อก็ได้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อผู้ต้องหาโดยมัดจำไป 5,000 บาทจากนั้นมิจฉาชีพได้รับเงินแล้วปิดเฟซหนีจากระบบ
ในชั้นจับกุม นายอภิชัยรับสารภาพว่า เมื่อต้นปี 2566 ได้ขายบัญชีธนาคารจำไม่ได้ว่าธนาคารอะไร 2 บัญชีให้แก่มิจฉาชีพ ในราคาบัญชีละ 500 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่ามิจฉาชีพเอาไปหลอกผู้ใด หรือไปกระทำผิดกับใคร
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล
ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า)
หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ