ตม.รวบหนุ่มผิวสีหลบหนีเข้าเมืองลอบทำงานโรงแรม ตีเนียนอัพค่าห้องเกินเรท ตม.เข้าตรวจสอบกลับวิ่งหนี สุดท้ายจนมุมถูกจับกุมได้
วันที่ 4 มิ.ย. 2567 เวลา15.00 น. พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.ท. สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1นำกำลังจับกุมนายไมเคิล (นามสมมติ)ชาวแอฟริกันผิวสี ได้ที่โรงแรมระดับ 1-2 ดาว ในซอยย่านพระโขนง หลังได้เบาะแสจากนักท่องเที่ยว มีคนต่างด้าวผิวสี ไม่ทราบสัญชาติ ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ มีพฤติกรรมมักเรียกราคาค่าห้องสูงกว่าอัตราที่ติดประกาศเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยเฉพาะ หากพบว่าลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้พ.ต.ท.สุริยะปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวลากกระเป๋าเข้าไปติดต่อขอเช่าห้องพักเป็นภาษาอังกฤษ พบนายไมเคิล (นามสมมติ)นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ สอบถามราคาห้อง นายไมเคิลแจ้งว่า 500 บาท แต่ราคาที่แจ้งไว้หน้าเว็บไซต์คือ 300 บาท และขอให้ชำระเป็นเงินสดเท่านั้น
เมื่อเจ้าหน้าที่จ่ายเงินเรียบร้อยจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง แต่นายไมเคิลกลับมีท่าทีค่อยๆเดินถอยหนี และสบโอกาสพยายามวิ่งออกหลังโรงแรม แต่ถูกจับกุมได้ทันควัน ผลตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดในระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง และระบบไบโอเมตริกซ์จากใบหน้าและลายพิมพ์นิ้วมือ ไม่พบข้อมูล
สอบถามนายไมเคิลรับว่าเข้ามาในราชอาณาจักรไทยช่วงปี 2564 หลังวิกฤตโควิด – 19โดยสารรถจากมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนจะมาทำงานที่โรงแรมดังกล่าวเกือบ 2 ปีแล้ว รับเงินเดือนเพียง 3,000-4,000 บาท แต่นายจ้างให้ที่พักอาศัยฟรีเป็นสาเหตุให้ต้องทำพฤติกรรมดังกล่าว
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” และ “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” พร้อมทั้งกล่าวโทษคนไทยซึ่งเป็นนายจ้าง ที่เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวในที่เกิดเหตุในข้อหา “ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการถูกจับกุม และรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยที่คนต่างด้าวนั้นไม่มีใบอนุญาตทำงาน”ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ก่อนจะผลักดันออกนอกราชอาณาจักรกลับประเทศต้นทางต่อไป
อนึ่ง สตม.ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทราบว่า บุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักร นอกจากจะต้องเข้ามาตามช่องทางอนุญาตตามกฎหมายและได้รับการตรวจลงตราโดยถูกต้องแล้ว ยังมีหน้าที่ที่จะต้องแจ้งที่พักอาศัยต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
หากประสงค์จะทำงานในประเทศไทยจะต้องดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท
ในส่วนของเจ้าของบ้านหรือผู้ครอบครองเคหสถานยังมีหน้าที่ในการแจ้งต่อ สตม. เมื่อมีบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยในสถานที่ที่อยู่ในความดูแลของตน ซึ่ง สตม. จะมีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามคนต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
ทั้งนี้หากผู้ใดให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้ผู้กระทำความผิดพ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จะมีความผิดตามมาตรา 64 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง หมายเลขโทรศัพท์ 1178 จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง