ไบโอเมตริกซ์ล็อกเป้า! สตม.ตามรวบหัวขโมยมองโกเลีย หลังตระเวนลักทรัพย์หลายแห่งกลางกรุง
พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการสืบสวนและปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง และชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นความรับผิดชอบหลัก สตม.
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 1 พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้รับ การประสานข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งหัวขโมยมือไว ชาวมองโกเลีย มีพฤติกรรมลักทรัพย์ตามห้างสรรพสินค้า สถานประกอบการ คลินิก หรือโรงแรมต่างๆ
อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอหยิบฉวยเอาทรัพย์สินไปโดยส่วนมากจะเน้นไปที่โทรศัพท์มือถือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กแล็ปท็อปและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีราคาแพงและหยิบฉวยได้ง่าย โดยเมื่อค่ำวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คนร้าย ได้ก่อเหตุในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านแยกราชประสงค์อาศัยจังหวะ ที่พนักงานห้างสรรพสินค้าเผลอ ลักคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก และหลบหนี
หลังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับทราบข้อมูล พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.ท. สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.ฯ สั่งการให้ชุดปฏิบัตินำระบบตรวจจับใบหน้าของไบโอเมทริกซ์ มาใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ปรับปรุงความละเอียดของภาพ จนจำกัดวงการค้นหา เปรียบเทียบอัตลักษณ์บุคคลเป้าหมาย ให้แคบลงได้เป็นจำนวนมาก
หลังนำภาพบุคคลต้องสงสัยที่ตรวจสอบได้ ไปให้ผู้เสียหายชี้ยืนยัน ทราบว่าเป็นชายชาวมองโกเลีย ชื่อ นาย Batuyakar เข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ปัจจุบันอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติ หมายจับบุคคลตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เจ้าที่ที่หน้าตำรวจได้ติดตามสืบสวนหาข่าวเรื่อยมา
จนกระทั่งวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวางรับแจ้ง เหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ โดยคนร้ายทำทีเข้าไปใช้บริการคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในย่าน พระราม 9 และอาศัยจังหวะที่พนักงานเผลอหยิบฉวยเอาโทรศัพท์มือถือไป
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจเปรียบเทียบจากระบบไบโอเมทริกซ์ยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ก่อเหตุที่ ห้างสรรพสินค้าดังย่านราชประสงค์เมื่อปลายเดือน พฤษภาคม
เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับ ฝ่ายสืบสวนสน.ห้วยขวาง ติดตามจับกุมได้ขณะผู้ต้องหาตระเวนขายโทรศัพท์มือถือดังกล่าว
ชั้นจับกุม นาย Batuyakar ยังไม่ยอมรับแต่เมื่อเห็นพยานหลักฐานของเจ้าที่ตำรวจโดยเฉพาะตำหนิรูปพรรณที่เด่นชัดเช่นรอยสักและภาพถ่ายเปรียบเทียบจากระบบไบโอเมตริกซ์ จึงจำนนต่อหลักฐานและยอมรับว่าเข้ามาในประเทศไทยเพื่อตระเวนลักทรัพย์ เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วจะนำไปขาย
จากการขยายผลเชื่อว่าคนร้ายก่อคดีลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง และเชื่อว่าไม่ได้กระทำความผิดเพียงคนเดียว เนื่องจากที่ผ่านมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจพบลักษณะแผนประทุษกรรมของกลุ่มแก๊งชาวมองโกเลียมักเข้ามาก่อเหตุ เกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นการล้วงกระเป๋า วิ่งราวทรัพย์ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งดังกล่าวอยู่พอสมควร อยู่ในระหว่างการสืบสวนเชิงรุกต่อไป
