“บิ๊กหวาน”มอบ สตม.คุมตัว 10 ผู้ต้องหาจีน คอลเซ็นเตอร์ต้ม“ซิงซิง”มาเมียวดี ส่งทางการจีนดำเนินคดี แฉ “เฟย เกอ”หัวโจก ถูกจีนตะครุบไว้ก่อนหน้าหลังไทยส่งข้อมูลให้
เย็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) / ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ (ศตคม.ตร.) เปิดเผยว่า
มอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการผลักดันส่งกลับผู้ต้องหาชาวจีนจำนวน 10 ราย ซึ่งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา และเกี่ยวข้องกับกรณีการหลอกลวงนายหวังซิงหรือซิงซิง นักแสดงชาวจีน เพื่อส่งให้ทางการจีนรับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
นอกจากนี้จะเพิ่มมาตรการกดดันและตรวจสอบทรัพย์สินของเจ้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อย่างใกล้ชิด
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.ได้มอบหมายและสั่งการให้ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ. รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินการสืบสวนขยายผลถึงผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว
จนพบว่าหลังจากที่ทางการไทยได้ให้ความช่วยเหลือนายหวังซิง หรือ ซิงซิง นักแสดงชาวจีนแล้วทำให้กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว ต้องหลบหนีจากเมืองเมียวดีเข้ามายังประเทศไทย เพื่อที่จะย้ายที่ตั้งไปยังประเทศกัมพูชา
ต่อมาผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 10 รายเหล่านี้ ถูกจับกุมได้ที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ, สภ. บางระจัน จ. สิงห์บุรี และสภ. คีรีมาศ จ. สุโขทัย ตามลำดับ ในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและได้มีการดำเนินคดีในความผิดฐานดังกล่าวในประเทศไทยจนเสร็จสิ้นแล้ว
จากการสืบสวนขยายผลของ บก.สส.สตม.พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปฏิบัติการอยู่ในเมืองเมียวดี และมีส่วนเกี่ยวข้องในการหลอกลวงชาวจีนมาโดยตลอด รวมถึงเป็นกลุ่มที่หลอกลวงนายหวังซิงหรือซิงซิงนักแสดงชาวจีน โดยอ้างตนเองว่าเป็นพนักงานของบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 10 รายมีหน้าที่แตกต่างกันไปตั้งแต่เป็นผู้จัดการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนักงานรักษาความปลอดภัย หรือเป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ที่ทำหน้าที่โทรหลอกลวง ประชาชนชาวจีน โดยเจ้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้มีชื่อว่า “นายเฟย เกอ” ซึ่งทางการไทยได้ประสานส่งมอบข้อมูลให้กับตำรวจจีน และได้รับการแจ้งว่าจับกุมตัวนายเฟย เกอ ได้แล้วที่ประเทศจีน
โดยวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม.สั่งการให้ชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ สตม. และ กก.3 บก.สส.สตม.ควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 10 รายส่งตัวให้ฝ่ายพิธีการเข้าเมือง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บก.ตม.2 เพื่อผลักดันส่งกลับและส่งตัวให้ทางการจีนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. กำชับอย่างเด็ดขาด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง, คนต่างด้าวถูกหลอกลวง และคนต่างด้าวประกอบธุรกิจผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด
รวมถึงคนต่างด้าวที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดและผลักดันออกนอกประเทศ รวมถึงลงบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยทุกราย
ในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะได้มีการดำเนินการเร่งรัดและปราบปรามผู้ที่ทำความผิดอย่างเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างต่อเนื่องต่อไป