Saturday, July 6, 2024
More
    Homeบทความทั่วไปตร.นิวยอร์กยิงเด็กชายวัย13เชื้อสายเมียนมาดับ

    ตร.นิวยอร์กยิงเด็กชายวัย13เชื้อสายเมียนมาดับ

    https://abcnews.go.com/GMA/News/video/fallout-after-police-fatally-shoot-boy-toy-gun-111570239

    สำนักข่าวเอบีซี นิวส์ รายงานผ่านสื่อโซเชียลและทีวี เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 เวลา 12.49 น.ตามเวลาท้องถิ่นพาดหัวว่า

    อัยการแห่งรัฐตรวจสอบเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจลั่นไกยิงเด็กชายวัยรุ่นที่ถูกกล่าวหาว่าพกพาอาวุธปืน โดยเด็กชายวัย 13 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตหลังหลบหนีการจับกุมในเขตยูทิกา รัฐนิวยอร์ก

    อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก เลทิเทีย เจมส์ แถลงที่สำนักงายอัยการถึงการพิจารณาสอบสวนเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อเหตุยิงเด็กชายวัย 13 ปี ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเล็งอาวุธปืนเทียมใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างเผชิญหน้าในย่านยูทิกา  

    โดยการแถลงมีขึ้น1วัน หลังจากที่ประชาชนนับร้อยไดัไปร่วมพิธีไว้อาลัย “เอ็นยาห์ เมียนเวย์” ด.ช.อายุ 13 ปี ผู้ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

    อ้างอิงจากสำนักกฎหมายแห่งรัฐนิวยอร์ก อัยการเจมส์ เปิดเผยว่าทางสำนักงานสอบสวนพิเศษ ของสำนักงานอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์ก คาดการณ์ว่าเหตุที่เกิดขึ้นตามที่ได้รับรายงาน “ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง “อาจจะเป็นผู้ทำให้มีคนเสียชีวิตจากการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

    เหตุสลดเกิดขึ้นประมาณ 22.18 น.วันที่ 28 มิ.ย.2567 (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ)  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจยูทิกาหลายนายของตำรวจหน่วยป้องกันอาชญากรรม เรียกตรวจค้นพลเรือน 2 คนในลักษณะที่ตำรวจไม่เปิดเผยตัว จากคำแถลงของสถานีตำรวจยูทิกา

    ระหว่างที่เรียกหยุดตรวจค้น เด็กชายวัย 13 ปีที่ระบุว่าชื่อ เอ็นยาห์เมียนเวย์ (Nyah Mway)  พยายามหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ซึ่งพยายามวิ่งไล่กวดจับ ตามคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้อยู่ในเหตุการณ์

    เอ็นยาห์แสดงให้เห็นว่ามีปืนพกพร้อมหันปากกระบอกปืนทางตำรวจ ฉับพลันทันใดหนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดตรวจคันได้ลั่นกระสุน1 นัดใส่วัยรุ่นคนนั้น ตามที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบพบ

    สำนักงานความปลอดภัยสาธารณะของยูทิกา ได้ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น 3 นาย ประกอบด้วย แพททริค ฮัสเนย์ คนที่ลั่นไกยิงใส่ด.ช.วัย 13 ปี ไบรซ์ แพทเตอร์สัน และแอนดรูว์ ซิตรีนิตี อดีตรับราชการในสำนักงานนายอำเภอออไนดาเคาน์ตี้

    ผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสได้รับการนำส่งโรงพยาบาลวินน์ ซึ่งต่อมาแถลงว่า ได้เสียชีวิตแล้ว

    ส่วนการสอบสวนเปิดเผยว่า อาวุธปืนที่เก็บไว้เป็นหลักฐานเป็นปืนพกจำลอง ยี่ห้อกล็อค 17 เจน 5 พร้อมแมกกาซีนที่ถอดออกได้หลังจากลั่นกระสุน

    มาร์ค วิลเลียมส์ หัวหน้าสถานีตำรวจยูทิกา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งเทียมอาวุธปืนที่พบเป็นปืนที่บรรจุกระสุนแบบเม็ด ขณะที่ทางอัยการสูงสุดระบุว่าปืน เจ้าหน้าที่พบปืนบีบีกันตกในที่เกิดเหตุ

    “เรามีความเห็นอกเห็นใจกับครอบครัวของเยาวชนที่เสียชีวิต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ด้วย”

    ทางสถานีตำรวจยูทิกาแถลง โดยทางการได้เปิดเผยภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจปฏิบัติหน้าที่จากกล้องติดตัวของแพทเตอร์สัน ที่เป็นภาพเคลื่อนไหวจากกล้องติดตัวขณะที่เจ้าหน้าที่สอบถามและจะตรวจค้นตัว เอ็นยาห์ เมียนเวย์ ซึ่งกลับหันวิ่งหลบหนีทันที

    “ระหว่างนั้นเขาดึงอาวุธปืนที่ซ่อนด้านหน้าท้องเป็นปืนกล็อกชนิดกระสุนเม็ดเล็ก ระยะเวลา51-53 วินาทีจากกล้องติดตัวแพทเตอร์สัน แล้วเล็งปืนตรงมาที่แพทเตอร์สันและตำรวจคนอื่น ๆ ด้วย”

    “ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนเหตุยิงกันนี้ภายในขอบเขตอำนาจของสำนักอัยการสูงสุดของสำนักงานสอบสวนพิเศษจะตัดสินว่าการใช้ความรุนแรงนี้อยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐหรือไม่

    อย่างไรก็ตามเราจะทำด้วยความรอบคอบเพื่อให้แน่ใจจากหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมดในขณะนี้เพื่อเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบต่อไปโดยจะยึดตามคำมั่นสัญญาอย่างโปร่งใส”

    แถลงของทางตำรวจระบุ

    ในการแถลงข่าวโดยวิลเลียมส์และนายกเทศมนตรี ไมเคิล พี. กาไลม์ ถูกขัดขวางและประท้วงจากสมาชิกในชุมชนที่ตะโกนใส่ตลอดเวลา

    เลย์ ฮตู ลุงของเอ็นยาห์ เปิดเผยกับเอบีซี นิวส์ ว่า เขาเห็นภาพจากวิดีโอ เขากับครอบครัวยิ่งรู้สึกเสียใจอย่างมาก

    “มันทำให้ผมยิ่งเศร้าใจอย่างยิ่ง ที่เห็นหลานชายคนหนึ่งถูกฆ่าตาย”

    พร้อมกันนั้นฮตู เล่าว่าครอบครัวของเขามีพื้นเพมาจากประเทศเมียนมา หลานชายคนนี้ก็ย้ายมาอยู่ที่ยูทิกาได้ 8 ปี เขาเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมต้นเท่านั้นเอง

    “หลานผมเป็นเด็กดีมาก เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มากก่อนเลย”

    ฮตูกล่าวย้ำ

    ขณะที่ประชาชนนับร้อยมาชุมนุมกันที่บริเวณตึกแถวริมถนนชอว์เพื่อแสดงการไว้อาลัยให้เมียนเวย์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเพียง24 ชั่วโมง มีผู้ที่นับถือในชุมชนมาร่วมกล่าวไว้อาลัยในครั้งนี้ด้วย

    ทางมาร์ค วิลเลียมส์ หัวหน้าสถานีตำรวจยูทิกา กล่าวว่า

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ จะถูกย้ายจากหน่วยขณะที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของอัยการสูงสุดของนิวอร์ก ขณะเดียวกันทางสถานีตำรวจยูทิกาก็จะดำเนินการสอบสวนไปพร้อมกัน

    “เราจะทำงานร่วมกันอย่างเปิดเผยกับทางคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยสาธารณะของเมืองยูทิกา เรามองเห็นคุณค่าของการปฏิบัติงานและสร้างความเชื่อมั่นในทุกๆ ของชุมชนโดยจะให้ข้อมูลอย่างเต็มที่สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้”

    พร้อมกับจะให้ข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมต่อสาธารณะในวันต่อไป รวมทั้งฟุตเทจจากกล้องติดตัวของตำรวจด้วย

    เดชา ภู่พิชิต 4/7/67

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments