วันที่ 13 ก.ค.66 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมพร สุ่มมาตย์ สว.สส. ได้นำกำลังชุดสืบสวน จับกุมตัวนายเริงฤทธิ์ หรือเวฟ อายุ 22 ปี ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 149/8 ม.13 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลางหลายรายการประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือไอโฟน คีมตัดเหล็ก ไขควง ค้อน หมวกันน็อค กระเป๋าสพาย เสื้อผ้ารองเท้า รวมถึงอุปกรณ์การขายกาแฟสด อาทิเช่น เครื่องสกัดกาแฟ เครื่องบดกาแฟ กาน้ำร้อน แก้วน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆอีกหลายรายการ
พ.ต.อ.นาวิน ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนรับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ภายในร้านกาแฟ บ้านทุ่งกราด ม.5 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงประสานงานฝ่ายสืบสวน ร่วมกันไปตรวจสอบ พบ น.ส.พิมพ์ชนก (ผู้เสียหาย) อายุ 25 ปี แจ้งว่าร้านกาแฟตนถูกคนร้ายลักเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท
ตรวจสอบ พบร่องรอยถูกงัดแงะ ตัดหูคล้องแม่กุญแจ ที่ประตูหลังร้านกาแฟ ภายในร้านกาแฟ พบร่องรอยการถูกลักทรัพย์ และมีทรัพย์สินที่สูญหาย แต่ข้างร้านมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้ คนร้ายเป็นชายสวมใส่หมวกกันน็อค เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สะพายกระเป๋าขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา ลักเอาทรัพย์สินภายในร้านและหลบหนีไป
ต่อมา ชุดสืบสวนสืบทราบว่ามีผู้ใช้เฟชบุ๊ค ชื่อ “เต๋า กิตติธัช” ประกาศขายเครื่องบดกาแฟ รุ่น S70 13 ในราคา 8,500 บาท ผ่าน “กลุ่มซื้อ-ขายเครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์มือสองทั่วไทย” จึงขยายผลสืบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าวพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 149/8 ม.11 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีไปตรวจสอบ
พบนายเริงฤทธิ์ หรือเวฟ เดินออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว แสดงท่าทางมีพิรุธและพยายามจะหลบหนีชุดจับกุมได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือไอโฟน อยู่ที่กระเป๋ากางเกงของนายเริงฤทธิ์ และพบว่าขณะนั้นมีการล็อกอินบัญชีเฟซบุ๊ค ชื่อ “เต๋า กิตติธัช”ตรงตามกับที่มีการโพสต์ขายเครื่องบดกาแฟที่ถูกขโมยไป โดยนายเริงฤทธิ์ ยอมรับว่าบัญชีเฟซบุ๊คดังกล่าวเป็นของตน และเข้าไปลักทรัพย์ในร้านกาแฟจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขยายผลตรวจยึดของกลางไว้เพื่อตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวนายเริงฤทธิ์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า ” ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้า ไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”.
