Tuesday, April 1, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตำรวจจ่อเอาผิด4คนจีนลอบขนเอกสารในพื้นที่ตึก สตง.ถล่ม

    ตำรวจจ่อเอาผิด4คนจีนลอบขนเอกสารในพื้นที่ตึก สตง.ถล่ม

    ตำรวจเตรียมดำเนินคดี ชายชาวจีน 4 คน ลักลอบเข้าพื้นที่ไปขนเอกสารในบริเวณเกิดเหตุตึกถล่ม ในความผิดตามพ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

    วันที่ 30 มีนาคม พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุตึกสูง 30 ชั้นถล่มเพื่อเร่งช่วยเหลือคนงานที่ยังคงติดค้างอยู่ภายใน 

    พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา มีชายชาวจีน 4 คน เข้าไปลักลอบขนเอกสาร ซึ่งเป็นแฟ้ม 32 รายการ ออกจากด้านหลังอาคารที่พังถล่มลงมาโดยไม่ได้รับอนุญาต ว่า

    ปัจจุบันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่สาธารณภัย จากคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมตามข้อกฎหมาย  พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งผลให้เขตพื้นที่นี้เป็นพื้นที่หวงห้าม บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือไม่ได้รับอนุญาตจะไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่นี้ได้

    ตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็นกลุ่มบุคคลประมาณ 4 คนได้นำเอาเอกสารออกจากบริเวณดังกล่าว มีลักษณะการค้นแฟ้มเอกสารออกไป ตำรวจได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามตัว

    กระทั่งพบกับชายชาวจีน 1 คน  อยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุ อ้างเป็นผู้อำนวยการโครงการเกี่ยวกับการขอก่อสร้างตึกจากการสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบวีซ่า ใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทางก็พบว่ามีใบอนุญาตทำงานถูกต้องและมีเอกสารที่ยืนยันว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวทำงานอยู่ในบริษัทซึ่งเป็นกิจการร่วมค้ากับบริษัทอิตาเลียนไทย

    ตรวจสอบเอกสารทั้งหมด 32 รายการ พบเป็นเอกสารหลายชนิด เช่น เอกสารผู้รับเหมาก่อสร้าง / สำเนาอาร์เอฟไอ / เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำชี้แจงหนังสือแจ้งให้ตรวจสอบงานทั่วไป /เอกสารขอความคิดเห็นและทำการชี้แจงเอกสารผู้รับเหมา / เอกสารผู้รับเหมาเช่าช่วงและเอกสารเกี่ยวกับผู้รับเหมา 3-4 รายการ และ เอกสารงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและขนส่ง พนักงานสอบสวนจึงยึดไว้ตรวจสอบ

    พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนชาวจีนทั้ง 4 คน หลังสอบปากคำแล้วเสร็จได้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยผกก.สน.บางซื่อได้ประสานการทำงานตรวจสอบร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา นคร ซึ่งมอบหมายให้นิติกรตรวจสอบว่าชาวจีนทั้ง 4 คนนี้ ได้เข้ามาในพื้นที่โดยได้ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่หรือไม่

    เบื้องต้นสำนักงานเขตจตุจักรได้ อยู่ระหว่างร่างคำร้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 4 คน ในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และเมื่อมีการเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนจะติดตามตัวทั้ง 4 คน เข้ามาพบและดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่อีก 1 รายผู้จ้างวานอยู่ระหว่างตรวจสอบและขยายผลต่อไป

    หากทางกรุงเทพมหานครแจ้งความแล้วจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ฐานผู้ใดเข้าไปในพื้นที่โดยไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายหรือตามคำสั่งของผู้อำนวยการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 6,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

    ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเพราะมีข้อบังคับและติดประกาศแจ้งเตือนไว้แล้ว  หากจะเข้ามาต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก่อน

    จากการสอบปากคำเบื้องต้นทั้ง 4 คน ระบุว่าต้องการเข้าไปในพื้นที่เพื่อเอาเอกสารไปเคลมประกันภัย  เอกสารดังกล่าวอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ของลานจอดรถ  เป็นสถานที่ชั่วคราวของบริษัทแต่ไม่ได้ขออนุญาต  ทั้ง 4 คน เป็นพนักงานรายย่อยของผู้รับเหมาในเครือบริษัทอิตาเลียนไทย

    พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารที่ตรวจยึดมาได้ว่าเกี่ยวข้องกับกรณีตึกถล่มหรือไม่ และจะมีการเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยอยู่ระหว่างการประสานงาน

    เบื้องต้นผบช.น.สั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องการชนะสูตรพลิกศพรวมถึงการตั้งคณะพนักงานสืบสวนว่าสาเหตุของการพังถล่มลงมาว่าเกิดจากสาเหตุใด

    ขณะเดียวกันตำรวจยังได้มีการประสานข้อมูลร่วมกับบริษัทประกันภัยว่ามีเอกสารส่วนใดที่จะต้องทำการส่งต่อเพื่อทำการส่งมอบ รวมถึงตรวจสอบว่ามีเอกสารส่วนใดที่หากมีการนำออกไปจากจุดเกิดเหตุแล้วจะส่งผลกระทบกับการทำคดีนี้เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล

    พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีสำนวนคดีอื่นที่ต้องทำคือการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตซึ่งจะต้องแยกเป็นอีกสำนวนหนึ่งเพราะกระบวนการสืบสวนและสอบสวนต้องแยกกันทำแต่ว่าพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ก็จะต้องนำไปใช้ประกอบกันขณะนี้มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปหลายปากแล้ว

    ในส่วนของการกู้ชีพกู้ภัย จะมีฝ่ายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นคนดำเนินการ แต่ในส่วนที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จะเป็นหน้าที่ตำรวจที่ต้องรับผิดชอบในการทำสำนวนการสอบสวนและหาสาเหตุในการเสียชีวิตว่าเกิดจากการกระทำของผู้ใดหรือเกิดจากความประมาทของผู้ใดหรือไม่ซึ่งก็อยู่ในกระบวนการต่อไปที่จะต้องดำเนินการ

    เบื้องต้นก็มีการสอบปากคำญาติของผู้ได้รับผลกระทบและจะมีการทยอยสอบปากคำไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแยกแยะเอกสารที่ตรวจยึดมาได้จากชาวจีนทั้ง 4 คน ก็จะต้องเชิญวิศวกรเข้ามาช่วยตรวจสอบด้วย

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments