ว่าที่ พ.ต.อ.วิษณุ คำโนนม่วง ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.จิระพันธุ์ รุจิระกุล ,พ.ต.ท.ธนพล ยอดกัญหา รอง ผกก.6 บก.ทล.
สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด นำโดย พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สวญ.ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล.,พ.ต.ท.กีรติ เหิมศรีชาติ สว.ทล.5 กก.6บก.ทล. , ร.ต.อ.พรชัย พวงใส รอง สว.ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล.,ร.ต.ท.ฐิติรัตน์ เสียงอ่อน รอง สว.(ป.) ฯ , ร.ต.ท.ปริญญ สอนสุข รอง สว.(ป.)ฯ , , ด.ต.ชาญณรงค์ ปัตวงค์ , ด.ต.ธงชัย เอื้อสามาลย์ ผบ.หมู่ฯ ช่วยราชการ ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล.,
ร.ต.ท.ฐิติรัตน์ เสียงอ่อน รอง สว.(ป.) ร.ต.ท.ปริญญ สอนสุข ,ร.ต.ท.สันติภาพ ประณมศรี ,ร.ต.ต.ธีร แก้วเนตร รอง สว(ป.)ฯ ,ด.ต.ครบมิตร ศิลาดล , ด.ต.ชาญณรงค์ ปีตวงค์ , ต.ต.ธงชัย เอื้อสามาลย์,ด.ต.วรพิสิทษฐ์ จีนละบตร ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล.,ด.ต.จักกรี หอมแก้ว , ด.ต.ประเสริฐ คงทน ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล.
จับกุมนายพัฒนพงษ์ อายุ 22 ปี นายณัฐพงษ์ อายุ 30 ปี และ Mr.Kongmany ชาวลาว อายุ: 19 ปี
พร้อมของกลางรถที่ถูกตรวจยึด1.รถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทาทะเบียน 3 ฒฐ 4275 กทม. 1 คัน บรรทุกรถจักรยานยนต์ 9 คัน ส่วนรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว 1 คัน ทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา บรรทุกรถจักรยานยนต์ 6 คัน
จับได้ที่ ทล.292 กม.0 ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร และ ทล.12 กม.724 ต.หนองสูงเหนือ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เมื่อช่วง5ทุ่มวันที่ 13 ถึงตี1เศษ วันที่14 ธ.ค. 68
พฤติการณ์ ชุดตรวจยึดได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ลักลอบส่งออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน(สปป.ลาว) ทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร 2 คัน จึงวางแผนสกัดจับเป้าหมายทั้ง 2 คันไว้ได้
สอบถามนายณัฐพงษ์ คนขับรถกระบะตู้ทึบทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา รับสารภาพ ไปรับรถจักรยานยนต์ทั้ง 6 คัน (กทม. 3 คัน ,สระบุรี 2 คัน และนครราชสีมา 1 คัน โดยจะติดกันกับคนว่าจ้างผ่านทางแอปพลิเคชั่น Line แจ้งว่าให้ไปรับจยย. ตามจุดที่แจ้ง และจะได้รับค่าจ้างขนส่งคันละ 1,500 บาท
เมื่อส่งรถจักรยานยนต์ถึงมือผู้รับแล้ว ในครั้งนี้ผู้จ้างให้นำรถจักรยานยนต์ทั้งหมดไปส่ง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และ อ.ดอนตาลจ.มุกดาหาร ทำมาแล้ว 5 ครั้ง จนกระทั่งถูกตรวจยึดในครั้งนี้
ส่วนนายพัฒนพงษ์ ผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบทะเบียน 3ฒฐ 4275 กทม. รับสารภาพ ได้ไปรับรถจักรยานยนต์ 9 คนจาก ชุมชนในเขตประชาอุทิศ กรุงเทพฯ โดยได้รับการติดต่อจาก นายขิงฯ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Line ว่าจ้างให้นำรถไปส่งที่ จ.มุกดาหาร ติดชายแดน สปป.ลาว
เมื่อไปถึงสถานที่นัดหมายแล้วจะมีคนมารับต่อ จะได้รับค่าจ้างขนส่งคันละ 1,500 บาท เมื่อส่งรถจักรยานยนต์ถึงมือผู้รับแล้ว นอกจากนี้ยังให้การว่าได้ทำลักษณะนี้หลายครั้งแล้ว
จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้ส่วนใหญ่เป็นรถที่ยังอยู่ระหว่างการเช่าซื้อ บางคัน เพิ่งเช่าซื้อมาได้เพียง 2 วัน ก็ถูกนำไปขายต่อให้กับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว
ขบวนการนี้มีแหล่งรับรถจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก ก่อนลำเลียงออกประเทศทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) โดยจะเลือกใช้ช่วงเวลากลางดึกในการขนส่ง ผู้ขับขี่รถที่ใช้ลำเลียงจะได้รับค่าจ้าง คันละประมาณ 1,500 – 2,500 บาทต่อคัน
จากการขยายผลพบว่าขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. กลุ่มผู้จัดหารถจักยานยนต์หรือหาบุคคลมาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รวมถึงการจัดหารถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายจากแหล่งต่าง ๆ อาทิ รถหลุดจำนำ หรือรถที่ถูกโจรกรรม
2. กลุ่มนักบิน หรือกลุ่มผู้รับหน้าที่ขนส่งและนำทาง
3. กลุ่มนายทุนและผู้ประสานงาน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและสั่งการ
นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดมีการติดต่อสื่อสารและสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน LINE และ Telegram หลายกลุ่ม
ภายในกลุ่มพบว่ามีสมาชิกเป็นผู้ขับขี่รถรับจ้างเป็นจำนวนมาก และมีแอดมินทำหน้าที่คอยส่งงาน แจ้งพิกัด กำหนดเส้นทาง และช่วงเวลาในการเดินรถอย่างเป็นระบบ สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของ ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่มีการจัดการและวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน
จากนั้นนำรถที่ถูกตรวจยึดได้ทั้งหมดส่ง พงส.สภ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และ พงส.สภ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน ผู้ว่าจ้าง และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป



























