Friday, October 3, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันตำรวจท่องเที่ยวใช้เอไอจับโจรตามหมายกว่า500รายสร้างความเชื่อมั่นให้นทท.

    ตำรวจท่องเที่ยวใช้เอไอจับโจรตามหมายกว่า500รายสร้างความเชื่อมั่นให้นทท.

    กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินหน้าสร้างพื้นที่ปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีกล้อง AI จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับแล้วกว่า 500 ราย หนุนเป้าหมายรัฐบาลดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับไทย

    ตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มุ่งพัฒนามาตรการด้านความปลอดภัยและการบริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว

    ตลอดจนการขับเคลื่อนของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ

    กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รายงานผลการปฏิบัติ ตั้งแต่กรกฎาคม 2567 ถึงปัจจุบัน (30 กันยายน 2568) โดยสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้กว่า 500 หมาย ผ่านระบบกล้อง AI อัจฉริยะ ที่เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการคัดกรองบุคคลต้องสงสัยและป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

    กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญหลายคดี ซึ่งล้วนเป็นกรณีที่ได้รับความสนใจจากสังคมและประชาชนอย่างกว้างขวาง อาทิ

    คดีความผิดทางเพศร้ายแรง ผู้ต้องหาซึ่งมีหมายจับคดีข่มขืนถึง 4 หมายจับ แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่เป็นภัยร้ายแรงต่อความปลอดภัยของประชาชน

    คดีเกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมรุนแรงและส่งผลโดยตรงต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม

    คดีหมายจับที่มีอายุความยาวนานกว่า 30 ปี การติดตามจับกุมในคดีลักษณะนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค

    ขณะเดียวกัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประกาศ มาตรการเร่งด่วน (BIG IMPACT ACT FAST) เพื่อตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล  ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนกลับมาไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน ภายใน 4 เดือน ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยและสร้างรายได้เข้าประเทศ

    นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ได้ย้ำถึงความจำเป็นของการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกับกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเสริมสร้างมาตรการรองรับทั้งในช่วง High Season และการเตรียมพร้อมต่อการจัดแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในประเทศไทย

    มาตรการด้านความปลอดภัยถูกยกระดับเข้มข้นมากขึ้น ทั้งการพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุ สายด่วน 1155 และแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police ที่รองรับการสื่อสารได้ถึง 8 ภาษา พร้อมปุ่ม SOS เชื่อมตรงไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุในทุกจังหวัด ตลอด 24 ชั่วโมง

    นอกจากนี้ยังมีการนำ AI Detect มาสแกนใบหน้าและเชื่อมโยงข้อมูลหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติการณ์เสี่ยงก่ออาชญากรรม ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ “พื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย” ทั่วประเทศ

    มาตรการเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและคุณภาพการบริการ เพื่อคงสถานะของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน

    ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขอประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยว หากประสบเหตุหรือร้องขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 หรือผ่านแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments