ให้เวลา 6 เดือนเตือนไม่ฟัง บุกรวบเถ้าแก่บ่อดินเถื่อนขุดขายผิดเงื่อนไขพ่วงข้อหาครอบครองปืนยาวติดกล้องซุกในรถ
เย็น วันที่ 4 เม.ย.68 พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก. ภ.จว.นครนายก และ พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช รอง ผบก. ภ.จว.นครนายก แถลงข่าวผลงานชุดปฏิบัติการ กองกำกับการสืบสวน ภ.จว. นครนายก จับกุมนายสามารถ อายุ 47 ปี พร้อมของกลาง รถแม็คโคร 1 คัน รถบรรทุกหกล้อ 2 คันปืนลูกกรด .22 ติดกล้องเล็งระยะไกล 1 กระบอก จับกุมได้ที่บ่อดิน แห่งหนึ่งในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก
พล.ต.ต.ปราโมทย์เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก ตั้งแต่ มีชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากรถบรรทุกขนดิน ขับผ่านไปมาภายในชุมชน จึงเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติ ผกก.สส. ภ.จว. นครนายก พ.ต.ท.กฤตพงศ์ โรจน์รุ่งศศิธร รอง ผกก.สส. ภ.จว.นครนายก และ พ.ต.ท.ยงยุทธ หวานเหนือ สว.กก.สส.ฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุด สืบสวนไปตรวจสอบ
พบรถบรรทุกดินและรถแม็คโครกำลังขนดิน มี นายสามารถ ยอมรับว่าเป็นเจ้าของบ่อดังกล่าวมีเอกสารขอขุดดินเพื่อการเกษตร, ประมง, เก็บน้ำแต่มีการจำหน่ายดินผิดเงื่อนไขการอนุญาต
จากการตรวจค้นรถยนต์นายสามารถ ยังพบปืนยาว .22 ติดกล้องเล็งระยะไกล อีกทั้งเมื่อตรวจร่างกาย นายบุญส่ง อายุ 44 ปี ลูกจ้าง พนักงานขับรถขนดิน พบยาไอซ์ 0.3 กรัม แถมปัสสาวะยังเป็นสีม่วง จึงควบคุมตัวเถ้าแก่และลูกน้อง ส่ง สภ.องครักษ์ ดำเนินการตามกฎหมายในทุกข้อกล่าวหา
พ.ต.อ.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติ ผกก.สส.ภ.จว.นครนายก กล่าวว่า คดีนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน มานานกว่า 6 เดือนแล้ว มีการแจ้งเรื่องร้องทุกข์กับตำรวจและฝ่ายปกครอง ตั้งแต่เดือน พ.ย.2567 ว่าบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย แตกร้าว จากการทำธุรกิจขุดและรถบรรทุกขนดิน
จากนั้นตำรวจ สภ.องครักษ์ ก็ได้เข้าไปตักเตือนและขอความร่วมมือ ให้ช่วยเยียวยา พร้อมทั้งให้ช่วยเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงดินเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน แต่ผู้ประกอบการกลับนิ่งเฉย เป็นเหตุให้ต้องตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย
มีรายงานว่า รถบรรทุกดินของกลาง จำนวน 2 คัน ที่ถูกยึดมาดำเนินคดีนั้น ล้วนติดสติ๊กเกอร์ ระบุข้อความ “โจ ดินด่วน” ไว้ที่กระจกด้านหน้าเอาไว้ ทั้ง 2 คัน เบื้องต้น ผบก.ภ.จว.นครนายก ยืนยันไม่ใช่ตราสัญลักษณ์บอกฝ่ายหรือสติ๊กเกอร์ส่วย ที่ติดไว้ขออำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น
สั่งการให้ กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.นครนายก เร่งขยายผลหาที่มาของสติ๊กเกอร์และวัตถุประสงค์ของการนำมาติดเอาไว้เพื่อไขข้อสงสัยให้ประชาชนรับทราบต่อไป
