ตำรวจลำปลายมาศบุกล็อกพ่อค้าวัย 52 ลอบขายกัญชา ,บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำกระท่อมปรุงเองหลายรสตำรวจอึ้งขณะซุ่มดูพฤติกรรม มีลูกค้าเด็กหญิงวัย 12-13 ปีเข้ามาซื้อจึงแสดงตัวจับกุมได้พร้อมของกลาง
วันที่ 25 ก.พ.68 หลังจากพบเด็กนักเรียนหญิงอายุ 11-15 ปีในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ถูกส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลด้วยอาการอ่อนแรง หายใจไม่อิ่ม และอาเจียน สาเหตุจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ารวมทั้งหมด 7 คน ไม่นับวัยรุ่นอายุ 15 ปีที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนม.ค. อีก 1 ราย
ต่อมา พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ สั่งการทุก สภ.หาเบาะแสแหล่งจำหน่ายของมอมเมาเยาวชนทุกชนิด จนกระทั่งจับกุมผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้าได้ที่ อ.ละหานทราย อีก 1 ราย
ล่าสุด พ.ต.อ.สยาม เกียรติบรรจง ผกก.สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พ.ต.ท.อภิภู จูประโคนสุข สว.กก.สส. ภ.จว. บุรีรัมย์ นำกำลังจับกุม นายมณฑล หรือกุ้ง อายุ 52 ปี ที่บ้าน บ้านสระบัวทอง ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
หลังได้รับเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าลักลอบจำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำกระท่อม ให้เยาวชนและนักเรียน ผ่านสื่อออนไลน์ชื่อเฟซบุ๊ก“พอตสูบแล้วทิ้งเมืองแฝก “
ชุดจับกุมซุ่มดูเหตุการณ์ พบเด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1จำนวน 2 คน เดินเข้ามาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าในราคาเครื่องละ 350 บาท เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมนายมณฑล หรือกุ้ง เจ้าของร้าน
พร้อมตรวจค้นภายในร้าน พบ 1.)น้ำต้มพืชกระท่อม 48 ขวด ติดราคาขายขวดละ 40 บาท2) กัญชาแห้ง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดกดปิดดึงเปิด 103 ถุง ราคาห่อละ 40 บาท
3) บุหรี่ไฟฟ้า (พอต) ชนิดใช้แล้วทิ้ง 7 เครื่อง เครื่องละ 340 บาท4.) หัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า 102 หัว หัวละ 100 บาท
5.) น้ำหวานส่วนผสมน้ำกระท่อม 38 ขวด6.) หมอต้มสแตสเลส ขนาดใหญ่ 60 ซม. 1 ใบ7.) หมอต้มสแตสเลส เบอร์ 45 1 ใบ ภายในบรรจุอุปกรณ์ตักกรอง 1 ชุด8.) เงินสด จำนวน 350 บาท ตรวจยึดจาก ด.ญ.จันฯ 9.) เงินสด จำนวน 2,435 บาท บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสีฟ้า10.) เงินสด จำนวน 1,475 บาท บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสีน้ำตาล มีอักษรเขียนว่า “เงินกระท่อม”
จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายมณฑล หรือกุ้ง รับสารภาพจำหน่ายให้กับเด็กวัยรุ่นจริง ส่วนสินค้าที่นำมาจำหน่ายมีนายชลากร หรือนุ ลูกชายเป็นคนสั่งซื้อจากหลายพื้นที่ ทั้งเชียงใหม่ นราธิวาสและปราจีนบุรี
พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากมีเด็กในเขต อ.สตึก สูบบุหรี่ไฟฟ้าถึงขั้นเสียชีวิต จึงสั่งการให้ทุก สภ.กวาดล้างให้หมด
เจ้าหน้าที่รู้สึกเป็นห่วงเพราะมีการพัฒนาปรุงแต่งสารเสพติดให้รุนแรงขึ้นส่งผลอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับน้ำกระท่อม ได้แต่งสีแต่งกลิ่น ประกอบด้วย “น้ำท่อมโยเกิร์ต ,น้ำท่อมชาเขียว,น้ำท่อมแอปเปิ้ลเขียว,น้ำท่อมรสเผือก ,น้ำท่อมเบอร์รี่ ไม่เว้นน้ำท่อมรสชาไทย รวมถึงน้ำท่อมบลูฮาวาย และน้ำท่อมรสลิ้นจี่
ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้สั่งการให้กวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า และสิ่งผิดกฎหมายที่จะส่งผลต่อสุขภาพของเด็ก จึงอยากจะฝากเตือนเด็กเยาวชน ที่คิดจะลองว่าการลองสิ่งที่ไม่ดีจะส่งผลลบต่อตัวเองและครอบครัวควรจะศึกษาหาข้อมูลก่อนทดลอง หรือปฏิเสธการชักชวนจากเพื่อนเอาไว้ก่อน
อย่างไรก็ตามหลังสอบสวน ตำรวจตั้งข้อหากับ นายมณฑลหรือกุ้ง ฐาน“ ซ้อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของหรือสินค้าต้องห้าม (บุหรี่ไฟฟ้าและสารสกัดที่เป็นแหล่งเกิดควันเพื่อการสูบกับบุหรี่ไฟฟ้า)นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนายบวรทัต หรือบอม สายทอง ด้วยอีกส่วนหนึ่งในความผิดฐาน จำหน่ายน้ำต้มกระท่อมที่มีหรือส่วนของพืชกระท่อม ทั้งต้นและสารสกัด อันเป็นอาหารที่ห้ามผลิตนำเข้า หรือ จำหน่าย โดยไม่ผ่านการประเมินความปลอดภัยของอาหารและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไม่ได้ตรวจอนุมัติฉลากก่อนนำไปใช้ตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงสาธารณะสุขว่าด้วยอาหารใหม่ ,
จำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 มาตรา 46,78 ประกอบประกาศกระทรงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม(กัญชา พ.ศ.2565 และ ซ้อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของหรือสินค้าต้องห้าม (บุหรี่ไฟฟ้าและสารสกัดที่เป็นแหล่งเกิดควันเพื่อการสูบกับบุหรี่ไฟฟ้า) นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย