ปทส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการสกัดจับขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามขาติ ยึดแพนด้าแดง จากโคลัมเบีย 2 ตัว มูลค่า 4 ล้านกว่าบาท ลิงอุรังอุตัง 8 ตัว รวมทั้งสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธ์ 8 ชนิด แฉนายทุนสั่งซื้อแพนด้าหัวแดง 2 ตัว จ่ายเงินแล้วรอส่งคนมารับแต่มาถูกจับเสียก่อน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 ม.ค.68 ที่ กองบังคับการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส. ) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิญญู แจ่มใส ผกก. 2 บก.ปทส, พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5บก.ปทส, พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผกก.6 บก.ปทส.พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ รอง ผกก.5 บก.ปทส.,พ.ต.ต.อภิชาติ พรหมมนตรี สว.กก.5 บก.ปทส.,ร่วมกับ พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2.บก.ทล., เจ้าหน้าที่ US.Fish & Wildlife Service และ Wildlife Justice Commission และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้าสัตว์ข้ามชาติ ประกอบด้วย นายวินัย อายุ 63 ปี นายพงศกร หรืออ๊อฟ อายุ 28 ปี และนายสุภวัชร อายุ 43 ปี ข้อหา มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษ จำคุก 5 ปี ปรับไม้เกิน 5แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,มีสัตว์ป่าควบคุมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษ จำคุก 1 ปีปรับไม่เกิน 1 แสนหรือทั้งจำทั้งปรับตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
พร้อมตรวจยึดสัตว์ 8 ชนิดประกอบด้วย ชะนีเซียมัง 2 ตัว ,ชะนีมือขาว 1 ตัว,อุรังอุตัง จำนวน 3 ตัว,ลูกควายป่าอานัว จำนวน 1 ตัว,ลิงแทมมารีนหัวสำลี จำนวน 7 ตัว,แพนด้าแดง จำนวน 2 ตัว
,พังพอน จำนวน 1 ตัว,นกกรงหัวจุก จำนวน 3 ตัว
รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก กก.5.บก.ปทส. สืบสวนขยายผลขบวนการค้าสัตว์ป่า จนทราบเบาะแสว่าจะมีการลักลอบขนลิงอุรังอุตัง และสัตว์ป่าผิดกฎหมายใกล้สูญพันธุ์ ทั้งจากไทยและต่างประเทศจึงได้วางแผนสกัดจับ จนกนะทั่งพบรถกระบะ อิซูซุ สีน้ำตาล-เทา ทะเบียน กค 6095 สตูล ตรงตามที่ได้รับแจ้งขับมาจากจ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงตามมาสกัดจับได้ที่ สี่แยกปฐมพร อ.เมืองชุมพร พบนายวินัย เป็นผู้ขับ เมื่อตรวจค้นกระบะหลังรถพบกรงใส่ชะนีเซียมัง จำนวน 2 ตัว ชะนีมือขาว จำนวน 1 ตัว,ลิงอุรังอุตัง จำนวน 3 ตัว(ตัวละ 800,000บาท) ลูกควายป่าอานัว จำนวน 1 ตัว จึงได้จับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางไว้
จากการสอบสวนขยายผลนายวินัย ทราบว่ามีหน้าที่ขับรถนำสัตว์ทั้งหมดมาจากบ้านพักใน จ.สงขลา เพื่อจะไปส่งให้จุดพักสัตว์ ในพื้นที่ภาคกลางอีกทอดหนึ่ง ได้ค่าจ้าง 15,000 บาท หลังทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงประสานกำลังตำรวจในสังกัด บก.ปทส.ไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 99/36 ม.3 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบนายพงศกร เป็นผู้ดูแล ตรวจค้นพบ สัตว์ป่าคุ้มครองเพิ่มเติม ได้แก่ พังพอน 1 ตัว , นกปรอดหัวโขน 1 ตัว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่93/6 ซอยเทศบาล 11/1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี (ที่ทำการช่องโคตรลุย studio gt exotic zoo) พบนายสุภวัชร แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ตรงจค้นภายในบ้านพบ
สัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง ได้แก่ ลิงทามารินหัวสำลี จำนวน 7 ตัว และแพนด้าแดง จำนวน 2 ตัว จึงตรวจยึดส่งให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รับไปดูแลอนุบาลต่อไป
สอบสวนทั้งคู่ ให้การว่า เมื่อ 3 วันก่อน มีนายทุนไม่เคยพบเห็นหน้า ติดต่อกันทางโทรศัพท์ บอกให้ไปรับเงิน 4.3 ล้านบาท ที่บริเวณประตูน้ำ ข้างตึกใบหยก เพื่อนำไปจ่ายเป็นค่าซื้อแพนด้าแดง 2 ตัว มาเก็บไว้ที่บ้านแล้วจะให้คนมารับ แต่มาถูกตำรวจจับเสียก่อน ได้ค่าจ้าง 5 หมื่นบาท นำตัวทั้วหมดส่ง บก.ปทส.ดำเนินคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า ขบวนการเหล่านี้ลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายผ่านทางเรือเข้าทางชายแดนภาคใต้ และส่งไปยังสถานที่ตามที่ได้รับออเดอร์ และเชื่อมั่นว่าปลายทางไม่ได้อยู่ในประเทศไทย จะมีการส่งต่อไปยังประเทศอื่นๆอีก เนื่องจากราคาจะมีการอัพขึ้นไปสูงมาก จาก 1 อาจกลายเป็น 20 เท่า ทั้งนี้จะมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงขบวนการดังกล่าว เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการใหญ่
สัตว์ที่ถูกตรวจยึดมานั้น ไม่ได้อยู่ตามบัญชีของสัตว์ป่าสงวนทั้งหมด ปกติการนำเข้าต้องผ่านทางศุลกากรและด่านตรวจปศุสัตว์ การสืบสวนจึงต้องมีการไปขอดูกล้องรวมถึงขอดูเอกสารนำเข้าส่งออกชิปปิ้ง และเอกสารอื่นๆ เพื่อตรวจสอบการนำเข้าส่งออกของคดีนี้
สำหรับแพนด้าแดง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มีถิ่ฐานอยู่ในประเทศโคลัมเบีย ส่วนสัตว์ชนิดต่างๆ นั้นส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย สัตว์ทั้วหมดส่วนใหญ่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่กลับมีนายทุนทุ่มเงินสั่งซื้อจากขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามขาติ หบังจากนี้จะขยายผลหากลุ่มนายทุน แบะผู้ร่วมขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติทั้วหมดเพื่อนำตังมาดำเนินคดีต่อไป