รวบหนุ่มใหญ่ ตีเนียนเป็นเจ้าของร้านเก็บค่าอาหารนักท่องเที่ยวก่อนชิ่งหนี พบทำมาแล้วหลายท้องที่
เย็นวันที่23ธ.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต. สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ. นริศ ปรารถนาพร รองผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง
สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน. พระ ราชวัง พ.ต.ท.ศตวรรธ์ เกียรติสกุลทอง รอง ผกก.สส. สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีสุยงค์ รอง ผกก.สส.สน.ยาน นาวา พ.ต.ท.สุเมธ ทองสมุทร รอง ผกก.สส.สน.พลับพลา ไชย1 , พ.ต.ท.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังลังเจ้าหน้าที่ สส.สน.พระราชวัง
ร่วมกันจับกุมนายกฤษณะ อายุ 55 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 6271/2567 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ในฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น จับกุมได้ บริเวณ แฟลตเคหะบางนา ซอย บางนา-ตราด 46 แขวง บางนาใต้ เขต บางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2567 เวลา 18.10 น. กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน 8 คน เป็นกลุ่มผู้มีปัญหาทางการพูดและได้ยิน ได้เข้าไปใช้บริการที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.
ต่อมามีชายไทยไม่ทราบชื่อลักษณะการแต่งกายดูดี เดินตามกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามา อ้างกับกลุ่มนักท่องเที่ยวว่าเป็นเจ้าของร้าน มาให้บริการด้วยตัวเอง ทำทีว่ามีความสนิทสนมกับแคชเชียร์ และพนักงานเสริฟ จนทำให้กลุ่มผู้เสียหายเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเจ้าของร้านจริงๆ
หลังสั่งอาหารเสร็จชายคนดังกล่าวได้เรียกเก็บเงินค่าอาหารเป็นจำนวน 2,608 บาท โดยทันทีเมื่อได้เงินจากผู้เสียหายก็ทำทีคุยกับพนักงานร้านแล้วเดินออกจากร้านไป เมื่อทานอาหารเสร็จพนักงานได้นำบิลมาเรียกเก็บเงินเป็นรอบที่ 2 จึงรู้ว่าถูกหลอก ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สน.พระราชวัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิด และขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญากระทั่งจับกุมได้
สอบสนวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและเป็นบุคคลในภาพตำหนิใบหน้ารูปพรรณของผู้ต้องหาจากกล้องวงจรปิดจริง นำำตัวส่ง สน.พระราชวัง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากแนวทางการสืบสวนยังพบว่านายกฤษณะ ยังมีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย โดยเมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2565 นายกฤษณะ ได้ก่อเหตุหลอกเอาเงินจากกลุ่มผู้เสียหาย 30 คน ที่เข้าไปกินอาหารในร้านสุกี้ชื่อดัง ในห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน
อ้างว่าเป็นผู้จัดการมาเสนอโปรโมชั่นจากราคาปกติหัวละ 276 บาท ลดเหลือหัวละ 200 บาท รวมเป็นเงิน 6 พันบาท โดยให้ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชีส่วนตัวก่อนเข้าไปกินอาหาร
เมื่อกลุ่มผู้เสียหายทานเสร็จพนักงานร้านได้เรียกเก็บค่าอาหาร กลุ่มผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความที่สน.ปทุมวัน ซึ่งนายกฤษณะ อยู่ระหว่างหลบหนี ก่อนถูกสน.ปากคลองสานจับกุมในคดีลักทรัพย์ และเพิ่งพ้นโทษออกมาช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ก่อนจะกลับมาก่อเหตุและถูกฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง เข้าจับกุมอีกครั้ง