ตำรวจไซเบอร์รวบวัยรุ่นสร้างตัวขายปืนแต่งรถ ขยายผลจับเฟซบุ๊ก “จูบจิ๋ม ที่ริมบึง”ขยายผล จับเพิ่มอีก 2 อ้างหาเงินเที่ยวสงกรานต์
เมื่อวันที่ 12 เม.ย.68 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบช.สอท.1 พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 สืบสวนพบการซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมายทางกลุ่ม Facebook กลุ่มหนึ่ง มีสมาชิกเกือบ 2 หมื่นคน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มและติดต่อขอซื้ออาวุธปืนจากสมาชิกในกลุ่ม ต่อมาได้มีบัญชีเฟซบุ๊ก “Ben Kanasanun” ตกลงขายอาวุธปืน ดัดแปลงเลียนแบบ Glock 19 จำนวน 1 กระบอก นัดส่งมอบกันที่ ทางเข้าวัดเขาพระบาท หมู่ที่ 6 ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
พบ นายคณัสนันท์ หรือ เบน อายุ 20 ปี ขับรถมายังจุดนัดพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบของกลางอาวุธปืนสั้นแบลงก์กันดัดแปลงใช้กับกระสุนขนาด .380 1 กระบอก กระสุนปืน .380 1 นัด ซองกระสุนปืน 1 ซอง
เจ้าหน้าที่ สืบสวนขยายผลจนทราบว่า นายคณัสนันท์ หรือ เบน ได้สั่งซื้ออาวุธปืนแบบหักลำจากผู้ใช้บัญชี Facebook ชื่อ “จูบจิ๋ม ที่ริมบึง สำรองสอง” สืบสวนจนทราบว่า เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวพักอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงได้วางแผนให้ นายเบน ติดต่อนัดส่งมอบอาวุธปืนกันที่ทางเข้าวัดเขาพระบาท หมู่ที่ 6 ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
พอถึงเวลานัดหมาย พบรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาจอดยังจุดนัดหมาย มีคนโดยสารมา 2 คน ทราบภายหลัง คือ นายภาคภูมิ หรือ ภูมิ อายุ 26 ปี เป็นผู้ขับขี่ และ นายสหัสวรรษ หรือ จี อายุ 25 ปี เป็นผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น
พบปืนสั้น แบลงก์กันดัดแปลงใช้กับกระสุน .380 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 9 นัด ซองกระสุนปืน 1 ซอง อยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลของนายภาคภูมิ และยังตรวจพบอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์แบบหักลำ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน .380 49 นัด สำหรับจัดส่งตามนัดหมาย และพบกระสุนปืน.380 อีก 28 นัด ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของในรถยนต์ที่ นายภูมิ และนายจี ขับขี่มา
เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนขายผลไปยังบัญชีโซเชียลต่าง ที่เป็นที่มาของอาวุธปืนผิดกฎหมายดังกล่าว เพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามนายเบนรับสารภาพ ว่า ชื่นชอบในอาวุธปืน จึงเข้าไปอยู่ในกลุ่มเพจขายปืนต่างๆ โดยเคยซื้อปืนมา แล้วนำไปขายต่อได้กำไรกระบอกละประมาณ 2,000 – 3,000 บาท จึงติดใจทำเรื่อยมาเพื่อหาเงินมาแต่งรถยนต์
ส่วนนายภูมิและนายจี มีอาชีพทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งย่านบ่อวิน โดยนายภูมิ รับสารภาพ อาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นได้นั้น ได้สั่งซื้อมาจากเพจ Facebook ต่างๆ แล้วนำมาขายต่อทางออนไลน์ เพื่อหาเงินเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะนายจี ให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ทราบว่านายภูมินำปืนมาในรถ ตนนั่งมาเป็นเพื่อนเท่านั้น
เบื่องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกัน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”
นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมดและรถยนต์ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนคันดังกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป