บทเรียนจากเหตุรถหกล้อชนดะ ถึงเวลาติวเข้มตำรวจจราจร
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ยุโรปตกอยู่ในภวังค์แห่งความหวาดกลัวเพราะภัยก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นการสังหารทูตรัสเซีย จากฝีมือตำรวจลับตุรกีที่เป็นบอดี้การ์ด และเหตุคนร้ายขับรถบรรทุกวิ่งบี้ผู้คนในตลาดคริสต์มาส กลางกรุงเบอร์ลิน มีผู้เสียชีวิต12 ศพบาดเจ็บ 49 คนทางการเยอรมันกำลังตามไล่ล่าหนุ่มตูนีเซียที่คาดว่าจะเป็นคนขับรถก่อเหตุ
วันรุ่งขึ้น วันที่ 21 ธ.ค. ที่ประเทศไทย คนกรุงเทพฯต้องระทึกเมื่อเกิดเหตุคนขับรถบรรทุก6ล้อขับตะบึงชนดะรถราต่างๆที่สัญจรไปมา สรุปเสียหายไปทั้งหมด42คัน เหตุเกิดใน2ท้องทีคือสน.มักกะสัน และสน.ทองหล่อ เริ่มตั้งแต่ถนนราชปรารถจนไปหมดฤทธิ์ที่ถนนเอกมัยช่วงปากซอยสุขุมวิท63 กินระยะทาง5กม.
เชื่อได้เลยว่าแว่บแรก ที่ได้ยินข่าวและยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ทุกคนคงคิดถึงเหตุการณ์คนร้ายขับรถชนคนในตลาดที่เยอรมันที่เพิ่งเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เมืองไทยในตอนเช้า
แต่ทุกอย่างคลี่คลาย เมื่อทราบว่าคนขับก่อเหตุเพราะเมายาไอซ์(พัฒนามากจากยาบ้ามาสูบไอซ์)และเครียดจากกรณีแฟนมีสามีใหม่
แต่ที่ กากีกลาย อยากจะเตือนไว้และให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ นั่นคือมาตรการแก้ไขเมื่อมีเหตุนี้ รวมทั้งให้ความรู้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติโดยเฉพาะตำรวจ เพราะขณะเกิดเหตุ มีตำรวจจราจรที่แยกราชปรารถ ขี่จยย.ตามมาใช้ปืนยิงสกัดยิงยางรถแต่ก็เอาไม่อยู่ รวมทันเงาการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ข้างเคียง ไม่พบว่ามีการสกัดกั้น ในคลิปข่าวยังเห็นภาพตำรวจวิ่งอยู่หลังรถบรรทุก ทำอะไรไม่ได้ปล่อยให้คนขับเมาไอซ์ลากยาวมาได้ถึง5กม. โชคดีที่ไร้คนเจ็บตาย ไม่งั้นเป็นเรื่องกว่านี้
สรุปแล้วไม่ว่าจะเกิดจากยาเสพติดหรือจะเป็นภัยก่อการร้าย แต่มันเห็นแล้วว่ามีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ และเท่าที่เห็นตำรวจส่วนใหญ่ ถูกฝึกเรื่องการเผชิญเหตุในสถานการณ์ล้อมจับ เข้าจับคนร้าย จับตัวประกันในสถานที่ต่างๆแต่ไม่เคยซักซ้อมถึงเหตุที่ไม่คาดฝันแบบนี้ อีกอย่างหน่วยงานที่มีความพร้อมจริงๆ อย่างอรินทราช26หรือคอมมานโด กองปราบก็ล้วนอยู่ในที่ตั้ง ไม่สามารถออกมาระงับเหตุได้ทันที เช่นเดียวกับฝ่ายสืบสวนของกองสืบหรือโรงพัก ก็ไม่สามารถออกมาช่วยเหลือได้ทัน
เพราะฉะนั้น ถึงเวลาแล้ว ที่ตำรวจจราจร ตำรวจหน่วยแรกบนท้องถนนที่มีสิทธิเผชิญเหตุ ควรจะติดเขี้ยวเล็บหรือได้รับการฝึกให้รับมือกับสถานการณ์แบบนี้ด้วย มือปราบหลายคนให้ความเห็นจากประสบการณ์ ควรจะยิงห้องเครื่องยนต์ไม่ใช่ยิงยางเพราะเครื่องยังติดยังทำงานอยู่. ถ้ายิงเครื่องยนต์พัง รถไม่สามารถไปไหนได้ และจะยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
เรื่องไม่คาดฝันนี้มันเกิดขึ้นมาแล้ว และไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ดังนั้นการป้องกันหรือการฝึกรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย
กากีกลาย23/12/59