จู้กหู้กกู้ กราบสวัสดี
อีกแล้ว อีกแล้ว ท้ายเกมครั้งที่ 5 ใน 5 นัดแรก ของฤดูกาลนี้
สรุปผลงานลิเวอร์พูล ลุย UCLนัดแรกเจอแอดมาริด..
เรียกว่าสนุกตื่นเต้นและไม่น่าเชื่อว่า การขึ้นนำ 2-0 ใน 6 นาที สำหรับทีมอย่างลิเวอร์พูล จะยังไม่การันตี 3 คะแนน ใดๆ
ประตูหลังนาที 80 เท่านั้น ที่จะยืนยันว่า ลิเวอร์พูลชนะแน่ๆ แล้ว แต่ไม่ว่ายังงัย 5 นัดแรกของฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูลชนะรวด พัฒนากว่าฤดูกาลที่แล้วอีก
สิ่งที่ผิดพลาดของวันนี้คือ ตอนที่ นำ 2-1 มีโอกาสโต้กลับ อยู่ 2 ครั้ง เนื่องจากแอดมาริด ลอยสูง ต้องการประตู ตีเสมอ แต่ 2 จังหวะนั้นที่ควรเป็นประตู กลับทำไม่ได้
โมซัดชนเสา อีกจังหวะเวียร์ซได้ง้างในเขตโทษแต่โดนฉก ถ้า 2 จังหวะนั้นเปลี่ยนเป็น 1 ประตู คงไม่ต้องเหนื่อยกัปตันฟานไดจ์
แต่พอไม่ได้ ถูกตีเสมอ คราวนี้ ภาพเดิมเหมือนนัดเบิร์นลีย์เลย เจอแพคเกม 11 คนหน้าประตู ดีที่ประตูจากเตะมุม มาทันเวลา หลังจากหายไปนาน
ต้องยอมรับตามตรงว่า เซอร์ไพรซ์พอสมควร ที่เห็นชื่อ อิซัก เป็น 11 ตัวจริง
พอได้เห็นลีลาในสนาม นี่แหล่ะ ของจริง ราคาแพง ที่ใช้ได้เลย แทบไม่ต้องปรับตัว การต่อบอลกับเพื่อน เนียนตาสุดๆ ทั้งที่ นัดแรกแท้ๆ
ในขณะที่ เวียร์ซ คือของแพงที่ยังต้องขอเวลาปรับตัวอีกพอสมควร บอลยังขาดๆเกินๆ ขนาดลูกเตะมุม ลูกออกจากเท้าโซโบ น่ากลัวกว่าของเวียร์ซพอสมควร คงต้องเอาใจช่วยอย่างหนัก 5 นัดแล้วนะ
ไม่รู้ว่าเป็นที่จังหวะเวลา หรือฟอร์มการเล่น แต่ตอนที่แมคก้า กับแบรดลีย์ ถูกเปลี่ยนลงมาพร้อมกัน เกมลิเวอร์พูลดูแผ่วไปอย่างเห็นได้ชัด ตรงกลางเหมือนเกิดช่องว่าง
หรือเป็นเพราะนาทีนั้น แอดมาดริด ต้องเร่งเกม เพื่อประตูตีเสมอก็ไม่รู้นะ แต่ผมรู้สึกว่าแบรดลีย์ ดูลกๆ เหมือนเคอร์เคส ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดที่แล้วเลย ฟริมปง ดูเนียนตากว่า
ลิเวอร์พูลตอนที่ขึ้นนำ 3-2 เรียบร้อยแล้ว
จังหวะที่โม ปาดบอลเข้ากลาง เอกิติเก้ ซัดข้ามคาน ตอนนั้นถ้ายังเสมออยู่ 2-2 เอกิติเก้ เละ!!!! (ฮา)
สิ่งนึงที่เราทุกคนควรรู้ ผมว่าคำว่า ชล็อตไทม์ ที่ถูกล้อมาจากเฟอร์กี้ไทม์ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มันคือการวางแผน และปรับแผนตลอดเวลา ทั้งของชล็อต และทีมงาน
การมีผู้เล่นดีๆ บนม้านั่งสำรองให้ชล็อตหยิบจับมาเปลี่ยนเกม เป็นส่วนสำคัญ การได้ประตูช่วงท้ายเกม 5 นัดติดกัน ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่มันคือการไม่ยอมรับ แม้กระทั่งผลเสมอ ต้องชนะเท่านั้น
จู้กหู้กกู้คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม มากกว่าตำหนิว่าทำไมปล่อยให้ทีมมาอยู่ในภาวะที่ต้องดิ้นรนท้ายเกม นะ
หลายคนอาจบอกว่า ถ้าเราดาหน้า ไม่ผ่อนเกม เหมือนที่สมัยเยอร์เก้น คล้อปป์ทำ เราอาจไม่ต้องเหนื่อยท้ายเกม แต่การผ่อนเกมนี่แหล่ะ ที่จะทำให้ไปต่อได้จนจบฤดูกาล โดยนักเตะไม่กรอบเป็นข้าวเกรียบซะก่อน
เป็น 1 ในกลยุทธ์ ที่ชล็อต เคยขอคำปรึกษา และวิเคราะห์ปัญหาของคล้อปป์มาก่อน ซึ่งน่าจะได้เห็นการผ่อนเกมแบบนี้ไปตลอดฤดูกาลแหล่ะ และมันเคยส่งลิเวอร์พูลเป็นแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
สุดท้าย แมนออฟเดอะแมตช์วันนี้ ขอยกให้แฟนบอลหน้าหนวด ที่ทำให้ซิมิโอเน่ ฟิวล์ขาด โดนแดง (ฮา)
ทำให้ซิมิโอเน่รู้ว่า This is anfield