เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผบช.น.
ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ รฟม. กรมขนส่งทางบก สมาคมรถบรรทุก ขสมก. รถร่วมบริการ การโยธา กทม. สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) และ บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง เข้าร่วมประชุม
มีรองผกก.จร. สว.จร. 88 สน. รวมทั้ง 150 คน เข้าร่วมประชุมหารือกำหนดมาตรการลดปริมาณฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานในอากาศ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ เผยก่อนการประชุมว่า เป็นการประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรงมถึงผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับปัญหาฝุ่นละออง pm. 2.5 ในกทม.
โดยพล.ต.ต.จิรสันต์ สั่งให้กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) มีรถโมบายตรวจสอบรถควันดำทั่วกรุงเทพมหานคร สุ่มจับกุม มีประมาณ 5-6 ชุด พร้อมเครื่องตรวจควันดำเข้าตรวจสอบ
ถ้ามีความผิดต้องจับกุม รวมถึงหากมีใครร้องเรียนเข้ามา จะดำเนินการตรวจสอบ
ส่วนกรณีการกำหนดข้อบังคับห้ามรถวิ่งวันคู่วันคี่นั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า จะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าหากมีมาตรการดังกล่าวจะเกิดผลกระทบอย่างไรหรือไม่
จะต้องหารือกับผู้ประกอบการร่วมด้วย ตนไม่สามารถตัดสินใจได้ หากถนนโล่ง แต่ธุรกิจผู้ประกอบการเสียหาย ต้องพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นก็เป็นไปได้ หากไม่ช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องช่วยกัน อย่าใช้รถที่ก่อให้เกิดควันดำ รวมไปถึงพื้นที่ก่อสร้างขอให้ช่วยกันตรวจสอบพื้นที่การคืนพื้นผิวจราจรว่าเสร็จสิ้นตามสัญญาหรือไม่ จะช่วยแก้ไขปัญหารถติดและลดปริมาณฝุ่นได้ด้วย
ส่วนการดำเนินการมาตรการต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถทำให้ลดลงได้แค่ไหนนั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนช่วยกันโดยเฉพาะผู้ประกอบการลดการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลที่เป็นตัวก่อมลภาวะฝุ่นละออง pm.2.5 ที่มีมากถึงร้อยละ 65 แล้ว จะทำให้ปริมาณฝุ่นลดลงได้ค่อนข้างเยอะ
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามมาตรการเดิม แต่จะปรับเปลี่ยนเป็นมาตรการเชิงรุกใช้รถเคลื่อนที่ตรวจสอบเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังตั้งคณะกรรมการควบคุมมาตรฐานควันดำ โดยค่ามาตรฐานปกติร้อยละ 45 จะให้เหลือเพียงร้อยละ 30 ซึ่งจะเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขสมก. และรถร่วมบริการ รวมถึงบริษัทขนส่งต่างๆ ต่อไป