เวลา 12.30 น. วันที่ 6 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงคดียิงในบ่อนย่านพระราม3 มีคนตายถึง4ศพว่า
สำนวนคดีแบ่งการพิจารณาออกเป็น 3 ส่วน 1.การจัดให้มีการเล่นการพนัน 2.การทำลายหลักฐานขนย้ายสิ่งของเพื่อให้การช่วยเหลือ 3.เหตุฆาตกรรม ถ้ามีใครไปเกี่ยวข้องถึงแม้ว่าเป็นผู้บาดเจ็บแต่เล่นการพนันก็ต้องถูกดำเนินคดี
ใครช่วยเหลือขนย้ายก็ดำเนินคดีฐานทำลายหลักฐานหรือช่วยหลบหนี ใครเกี่ยวข้องคดีฆาตกรรมต้องถูกดำเนินคดีด้วย บางคนอาจโดนหลายข้อหา
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อไปว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมายืนยันว่าสถานที่นี้มีการเปิดลักลอบเล่นการพนันขึ้นมาระยะหนึ่ง และมีการทำลายหลักฐานหรือขนย้ายสิ่งของเกิดขึ้นจริง
ครั้งแรกที่ตนไปแล้วไม่พบ เนื่องจากไปถึงที่เกิดเหตุช่วงเวลา 00.30 น. เข้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง และเจ้าหน้าที่แพทย์นิติเวช
เมื่อเข้าไปพบพยานหลักฐานอย่างมีร่องรอยว่าเคยติดตั้งกล้องซีซีทีวี แต่ช่วงเวลาขณะนั้นยังไม่แน่ใจ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีเหตุการณ์ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว
ยืนยันจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และดำเนินคดีตามข้อพิจารณาทั้งหมด
เมื่อถามว่าที่เชื่อว่าเป็นบ่อนจริงมาจากการตรวจสอบในพื้นที่หรือจากคลิปวีดิโอที่แชร์กัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บ 4 รายที่อยู่ในเหตุการณ์ ตำรวจสอบปากคำไว้ รวบรวมหลักฐานหลายๆส่วน
ส่วนหลักฐานทางโซเชียลหรือจากสื่อมวลชน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ทุกคนช่วยกันตรวจสอบ ต้องขอขอบคุณ และยินดีหากใครมีหลักฐานเพิ่มเติมก็สามารถส่งมาให้ทาง บช.น. หรือ หน่วยงานอื่น นำมาให้ตำรวจตรวจสอบ ก็จะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา
แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่บช.น.ก็ต้องรับผิดชอบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการกำชับเด็ดขาดเกี่ยวกับเรื่องบ่อนการพนัน ใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่มีความบกพร่องก็จะดำเนินการทุกราย
“ส่วนเจ้าของบ่อนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนเป็นเฮียตี้หรือไม่นั้น ขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบก่อน แต่ก็ไม่ตัดประเด็นดังกล่าวทิ้ง
กรณีว่าเฮียตี้เป็นเจ้าของบ่อนมีหลายคนมีความเชื่ออย่างนั้น เบื้องต้นทราบชื่อนามสกุลจริงแล้ว แต่ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบก่อน
ในส่วนของเจ้าของตึก ทราบแล้วว่าผู้ที่เช่าเป็นใคร เป็นเจ้าของบริษัทให้เช่าช่วงต่อมา แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ที่ให้เช่าตึกดังกล่าวเป็นคนดำเนินการเกี่ยวข้องกับเรื่องบ่อนการพนันหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ
ส่วนที่มีการดัดแปลงตึก ถ้ากระทำความผิดเรื่องการดัดแปลงตึกก็ต้องดำเนินคดีเรื่องดังกล่าวด้วย
ส่วนกรณีทำลายหลักฐาน ทางตำรวจสืบทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุได้แล้วจำนวนหนึ่ง จะดำเนินคดีเรื่องการพนันและทำลายของกลาง
ส่วนการตรวจสอบภาพกล้องจรปิดเพิ่มเติม ยังไม่ได้ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าว หากใครมีก็ส่งมาให้ตำรวจดำเนินการพิสูจน์ทราบ”
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวด้วยว่า ผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตรู้จักกันมาก่อน เคยมีปัญหาเรื่องหนี้สินกันกู้ยืมเงิน และมีประเด็นอื่นๆ เกี่ยวข้อง แต่กรณีดังกล่าวอยู่ในสำนวนการสอบสวนคดีฆ่า ต้องขอเวลาตรวจสอบ
แต่ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่ามือปืนก่อเหตุนั้นมีไม่น้อย 1 คน พิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้แล้ว 1 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุมอยู่
ส่วนกรณีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมามอบตัวซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบนั้น มามอบตัวแล้ว จะเชื่อทันทีไม่ได้ ต้องดูว่ามีพยานหลักฐานอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่
หากมีอาวุธที่ใช้ก่อเหตุนำมามอบก็ต้องตรวจสอบ ถ้าเชื่อว่ากระทำผิดจริงก็ดำเนินการ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็มีสิทธิ์จะให้การ อาจจะรับสารภาพหรือไม่รับก็ได้
“กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นมาในพื้นที่บช.น. จนถึงที่สุดแล้วผมก็ต้องรับผิดชอบ เพราะเหตุเกิดขึ้นในบช.น. ไม่ได้เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เกี่ยวกับผบ.ตร. เป็นเหตุที่เกิดขึ้นในบช.น. เป็นเรื่องของบช.น.
ถามว่าหนักใจหรือไม่ จริงๆ ก็เสียใจ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง ส่วนจะมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่นั้น อย่างที่นำเรียนไปกรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของบช.น. ก็แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา
ส่วนที่ถามว่าบ่อนดังกล่าวเป็นเรื่องของคนมีสีนั้น คงไม่มีใครไปเกี่ยวข้องเนื่องจากเป็นเรื่องผิดกฎหมาย” ผบช.น.กล่าว