จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถ ตำรวจ สน.ปทุมวัน วิ่งตามกระชากรถมอเตอร์ไซค์ไรเดอร์ จนผู้โดยสารเกิดอุบัติเหตุนั้น
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 12 มิ.ย.68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่า จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณจุดกลับรถแยกปทุมวัน ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2568 เวลา 10.40 น.
ขณะที่ ส.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ผบ.หมู่ (จร.) สน.ปทุมวัน ยืนอำนวยความสะดวกการจราจรอยู่บริเวณแยกปทุมวัน รับแจ้งทางวิทยุจากเจ้าหน้าที่ประจำตู้ควบคุมสัญญาณแยกจุฬาฯ 12 มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ลักษณะผู้ขับขี่ใส่เสื้อสีดำไม่ได้ระบุว่าเป็นไรเดอร์ มีผู้โดยสารใส่เสื้อสีขาวไม่สวมหมวกนิรภัย ขี่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง โดยขับขี่มาจากถนนสีลม จากแยกสามย่านย้อนศร จนกระทั่งมาถึงจุดกลับรถบริเวณดังกล่าว ลักษณะคล้ายกับต้องการหลบหนีการจับกุม เป็นเหตุต้องสงสัยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกหยุดเพื่อตรวจสอบ
ส.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ยืนอยู่บริเวณจุดกลับรถ เห็นรถคันดังกล่าวขับรถจากช่องทางซ้ายสุดเปลี่ยนมาช่องทางขวาสุดเพื่อจะกลับรถบริเวณก่อนถึงแยกปทุมวัน ส.ต.ท.อิทธิศักดิ์ จึงได้เดินไปเรียกให้หยุดแต่ผู้ขับขี่คันดังกล่าวไม่หยุด และเกิดเหตุการณ์เข้าไปติดตามจนเป็นเหตุรถล้ม ทำให้ ส.ต.ท.อิทธิศักดิ์ นายอาทิตย์ ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน รับคำร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ไว้เป็นคดีจราจรที่ 159/2568 ลงวันที่ 12 มิ.ย.68 ดำเนินคดี กับนายอาทิตย์ ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ เบื้องต้นแจ้งข้อหา ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ, ไม่จัดให้ผู้โดยสารสวมหมวกนิรภัย, ไม่หยุดรถตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ผบ.ตร. ได้กำชับการปฏิบัติตามแนวทางบังคับใช้กฎหมายจราจรด้วยความเหมาะสมมาโดยตลอด กรณีดังกล่าวเป็นเหตุซึ่งหน้า ทำให้มีเหตุลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น
กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้ทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งหากปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้ อาจจะเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ การวิ่งล็อคผู้ขับขี่ดังกล่าวไม่ใช่ยุทธวิธีของตำรวจเลย
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่กรณีดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ทางผู้บังคับบัญชาจะช่วยดูแลกรณีผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวอย่างเต็มที่ และได้สั่งการให้กวดขันจับกุมผู้กระทำผิด เน้นที่ตัวผู้กระทำผิดและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นั้น ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในภาพรวมเป็นหลัก และจะได้ทำความเข้าใจและอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้าใจในวิธีการปฏิบัติ ให้รอบคอบ ปลอดภัย ถูกต้องตามหลักการและยุทธวิธีต่อไป
กรณีนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดเกินกว่าเหตุจนเป็นเหตุให้มีผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ก็พร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบ และดำเนินการตามกรอบของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ช่วง 20.30 น.ที่ผ่านมา ผบ.ตร.สั่งการ พล.ต.ท.สยามฯ ผบช.น.ได้เข้าเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสอบถามอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลพร้อมด้วย ผกก.สน.ปทุมวัน เพื่อทราบรายละเอียดเหตุการณ์ครั้งนี้เพื่อพิจารณาช่วยเหลือ ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย