น.1แถลงชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับ อย. จับหนุ่มปทุมธานี ลอบนำเข้ายาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทจำนวนมากจากกัมพูชา อาทิ อัลปราโซแลม มอร์ฟีน โดมิคุม ช่อดอกกัญชาผสมผงเห็ดขี้ควาย และใบกัญชารวมมูลค่าของกลางกว่า 20 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ก.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.)
นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก. นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการสำนักงาน อ.ย. และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายสุทธินันท์ หรือเบนซ์ อายุ 31 ปี ข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด และพรบ.ยา พร้อมของกลาง ยาเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท จับได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.เผยว่า สืบสวนพบเว็บไซต์ลักลอบขายยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาท และยาที่อยู่ในบัญชีประเภทยาเสพติดโดยผิดกฎหมาย ได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาร่วมตรวจสอบเฝ้าติดตามการสั่งซื้อ
จนพบต้นทางคือบ้านหลังหนึ่งในต.คูคต จ.ปทุมธานี เป็นที่จัดส่งยา เมื่อมีพยานหลักฐานเพียงพอขอหมายค้นจากศาลจังหวัดธัญบุรีเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาได้ จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านอีกหลังในพื้นที่เดียวกัน ผู้ต้องหาใช้บ้านหลังนี้จัดเก็บยา
พบวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 เช่น อัลปราโซแลม มอร์ฟีน โดมิคุม รวมกว่า 82,000 เม็ด ยาน้ำกว่า 1,900 ขวด รวมไปถึงตรวจยึดกัญชา ประเภทช่อดอก ผสมผงเห็ดขี้ควาย หรือเห็ดเมา ยาเสพติดประเภทที่ 5 และใบกัญชาอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าของกลางที่ยึดไว้กว่า 20 ล้านบาท โดยยาดังกล่าวมาจากประเทศกัมพูชา ถูกส่งเข้ามาผ่านช่องทางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น.เผยว่า ยาดังกล่าวถูกสำแดงเท็จ เป็นสินค้าประเภทอื่นทำให้ยาเหล่านี้เล็ดลอดเข้าประเทศได้ จากการขยายผลพบว่าผู้ต้องหาทำมานานกว่า 2 ปี ขายผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อผู้ต้องหาได้รับของที่สั่งซื้อจากประเทศกัมพูชาจะส่งพัสดุต่อไปยังผู้ที่สั่งซื้อ บ้านหลังดังกล่าวที่จับกุมผู้ต้องหาถูกเปิดเป็นร้านรับส่งพัสดุเพื่อใช้ส่งยาเหล่านี้ จากนี้จะขยายผลเส้นทางการเงินเพื่อหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีเพิ่มเติม
นายธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขาธิการ รมว.สาธารณสุข และนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันเผยว่า ของกลางที่ยึดได้มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าถูกส่งมาจากประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะกลุ่มยาแอลปราโซแลม เป็นยาที่อยู่ในบัญชียาเสพติด ต้องจำหน่ายผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเป็นผู้อนุญาตให้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ถือว่าเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เข้าข่ายมูลฐานการฟอกเงิน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะร่วมกับตำรวจขยายผลไปถึงต้นทางฝั่งประเทศกัมพูชา และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากเส้นทางการเงิน
สำหรับตัวยาที่ลักลอบนำขายในสื่อสังคมออนไลน์ จะขายในราคาที่แพงกว่าท้องตลาดถึง 10 เท่า เป็นจุดสังเกตที่เห็นได้ชัดว่ายาเหล่านี้ถูกขายอย่างผิดกฎหมาย ฝากแจ้งประชาชนหากจำเป็นต้องใช้ยาต้องเข้าพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเฉพาะทางเป็นผู้สั่งจ่ายยาเท่านั้น แต่ในส่วนของผู้ที่ลักลอบนำยาที่มีฤทธิ์ต่อประสาทนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องจะต้องถูกดำเนินคดี ตำรวจจะขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา 1. จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. จำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต 3. จำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต 4. ห้ามมิให้ผู้ใดผลิตขาย นำเข้า หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับอนุญาต 5. ร่วมกันขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรรมไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 32 6. ร่วมกันประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต มาตรา 28 และความผิดเกี่ยวกับ พรบ.กรมศุลกากร