ตำรวจสอบสวนกลางรวบพ่อ-ลูก รับจ้างขนยาไอซ์คาด่านตรวจ ยึดไอซ์ กว่า 50 กก. พ่อสารภาพได้ค่าจ้างเที่ยวละ 4.5 หมื่นบาท ส่วนลูกโอดถูกพ่อหลอกมาขนยา
วันที่ 20 พ.ค.68 พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ สั่งการ พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล. พ.ต.ท.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5 บก.ป. บก.ปคบ.
ร่วมกันจับกุม นายสาบรี อายุ 47 ปี และ นายฟิตตรี อายุ 19 ปี พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม,รถยนต์ฮอนด้า รุ่น ซีอาวี ทะเบียน 4 ทกท xxx กรุงเทพมหาคร สีเทา 1 คัน ,รถเก๋งฮอนด้า แอ็คคอร์ด สีขาว ทะเบียน 3 กณ xx กรุงเทพมหานคร 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับได้ที่จุดตรวจ ทล. 41 หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง ทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล. ได้รับการประสานจากตำรวจบก.ปคบ.และกองปราบ แจ้งว่ามีเครือข่ายยาเสพติดทางภาคใต้จะลำเลียงยาไอซ์ จากภาคเหนือเพื่อนำไปขายให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ ใช้รถยนต์2 คัน จึงนำกำลังตั้งจุดสกัดตามถนนทางหลวงหมายเลข 41 ต.นาโพธิ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (ขาล่องใต้)
พบรถทั้ง 2 คันขับมาบริเวณจุดตรวจ ด้วยความเร็ว จึงเรียกตรวจสอบ พบทั้งสองมีท่าทีพิรุธ เมื่อตรวจค้นพบยาไอซ์ จำนวน 50 ห่อ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อยู่ในถุงชา ใส่ไว้ด้านหลัง รถฮอนด้า ซีอาร์วี จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายสาบรี สารภาพว่า รับจ้างขนไอซ์ได้ค่าจ้าง 45,000 บาท รับยาจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เตรียมนำไปส่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทำมาแล้ว 2 ครั้ง
ขณะที่นายฟิตตรี ลูกชายให้การภาคเสธ อ้างว่านายสาบรี ผู้เป็นพ่อชวนขับรถไป จ.เชียงราย ขากลับให้ขับนำหน้า คอยโทรบอกหากพบด่านตำรวจ ทั้งนี้คิดว่าพ่อเสพยามา กลัวตำรวจตรวจปัสสาวะเท่านั้น ไม่คิดว่าจะรับจ้างขนยาเสพติด
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในความครอบครองอันเป็นการกระกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนฯ ” และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม นายสาบรี ข้อหา “ขับรถในขณะเมาเมทแอมเฟตามีน ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งส่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการ “Fast74 เร็ว แรง ลับ ลวง พลาง” สำหรับผู้ต้องหากลุ่มนี้ มีการกระทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน ทั้งส่งรถนำ เคลียร์เส้นทาง ใช้รถที่มีศักยภาพ ความเร็วสูง ขณะที่ตำรวจขับรถไล่ตามประกบ พบผู้ต้องหาใช้ความเร็วบางจุดถึง 170 กม./ชม. เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนอย่างรัดกุม ล่อลวงให้ผู้ต้องหาตายใจ ก่อนจะใช้กลยุทธ์เฉพาะตัวของตำรวจทางหลวง ตามจับกุมไว้ได้ในที่สุด