วันที่ 23 ก.ย.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ในฐานะหน.ชุดส่วนปฏิบัติศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ
สั่งการ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.นำกำลังร่วมกับสภ.แสนสุข ตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ จ.ชลบุรี
จับกุมนายวรพตน์ คุ้มภัย อายุ 41 ปี ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกรรโชกทรัพย์
สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือน ก.ค.64 มีผู้เสียหายหญิงสาวรายหนึ่ง ส่งเรื่องร้องเรียนผ่าน “เพจศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ”
ถูกผู้ใช้บัญชีอินสตราแกรมชื่อ “โกโก้” ara1_234567890 ส่งคลิปวีดีโอที่ถูกแอบถ่ายไว้ในลักษณะลามกอนาจาร มาข่มขู่เรียกเงิน 200,000 บาท แลกกับการไม่ปล่อยคลิป และขอร่วมหลับนอนด้วย
เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมทำตาม คนร้ายได้ข่มขู่ต่อเนื่อง รวมถึงกดดันไปยังคนในครอบครัวและคนรอบข้าง จนทำให้เกิดความอับอาย
ส่งผลต่อหน้าที่การงานและสภาวะจิตใจเป็นอย่างมาก ประกอบกับพฤติการณ์ของคนร้ายหากปล่อยไว้อาจเป็นภัยต่อสังคม
พล.ต.ต.จิรภพสั่งการให้กองปราบสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งสืบทราบว่าคนร้ายคือ นายวรพตน์ เคยรู้จัก และมีความสัมพันธ์กับผู้เสียหายมาก่อนผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ ตั้งแต่ปี 2560
ช่วงแรกจะพูดคุยคอยให้คำปรึกษากับผู้เสียหายมาโดยตลอด เมื่อเกิดความไว้ใจ จึงออกอุบายลวงให้มาพบ ก่อนพาเข้าโรงแรมเพื่อกระทำอนาจาร พร้อมแอบถ่ายคลิปวีดีโอไว้ ซึ่งเป็นคลิปเดียวกันกับที่ใช้ในการข่มขู่
หลังจากนั้น ยังคงพยายามรบเร้าให้มาพบอีก โดยจะนำคลิปวีดีโอมาใช้ในการข่มขู่ให้ยอมทำตาม
แต่เมื่อฝ่ายหญิงไปถึงสถานที่นัดหมาย กลับพบว่านายวรพตน์ ได้พาเพื่อนมาอีก 2 คน นั่งดื่มเบียร์ รออยู่ภายในห้องพัก ก่อนจะใช้กำลังบังคับข่มขืนหลายครั้ง รวมถึงบังคับให้รออยู่ในห้อง
จนทนต่อพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว หาทางหลบหนีออกมาจากห้องพักดังกล่าวได้ และพยายามตัดขาดการติดต่อ แต่ไม่เป็นผล กระทั่งมาถูกข่มขู่เรียกเงิน 2 แสนบาท ครั้งล่าสุด
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงประสานข้อมูลร่วมกับ สภ.แสนสุข เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นและหมายจับไว้ จนนำไปสู่การเปิดปฏบัติการเข้าจับกุมตัวพร้อมกับตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ1 เครื่อง
ตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือของกลางพบหลักฐานสำคัญในการยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้คือ เจ้าของบัญชีผู้ใช้อินสตราแกรม ที่ส่งข้อความมาข่มขู่ผู้เสียหายจริง
และยังพบคลิปวีดีโอที่แอบถ่ายไว้ขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายรายอื่นอีกด้วย รวมถึงยังพบว่ามีการเปิดบัญชีแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชั่นหาคู่ เพื่อใช้สำหรับหลอกเหยื่อคนอื่นๆอีกหลายราย
สอบสวนให้การรับสารภาพว่าข่มขู่กรรโชกเงินจากผู้เสียหายจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับข่มขืนเป็นการสมยอมกันของทั้งสองฝ่าย นำตัวส่ง สภ.แสนสุข ดำเนินคดีต่อไป