วันที่ 9 พ.ย. ที่ บช.ก. เมืองทองธานี พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.กล่าวภายหลังหารือการทำงานในรอบสัปดาห์กับ รองผบช.ก. และ ผบก. ในสังกัด
รับตำรวจทางหลวงจุดอ่อนบช.ก.
ยอมรับว่า ขณะนี้จุดอ่อนของตำรวจ บช.ก. คือ ตำรวจทางหลวง เพราะต้องตั้งด่านและสัมผัสประชาชนทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ
มีการเขียนใบสั่งหน้าตู้บริการหรือจุดบริการทางหลวง ต่างกับหน่วยงานอื่นๆที่สร้างผลงานการจับกุมช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จนเป็นจุดแข็งเพราะออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
มาคิดว่าจะทำอย่างไรกับตำรวจทางหลวง ที่ผ่านมาได้เรียก พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. คนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งเข้ามาเพื่อให้ไปคิดค้นหาทางแก้ไข
จุดตรวจให้ออกใบสั่งอย่างเดียว
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นให้ไปแก้ไขจุดบริการทางหลวงหรือจุดที่ตั้งด่านจะไม่ต้องมีการปรับเงินสดอีกต่อไปเพื่อไม่ให้มีการยัดเงินให้กับตำรวจ
แต่ให้ออกใบสั่งเพียงอย่างเดียว โดยไม่ให้เปรียบเทียบปรับที่บริเวณนั้น เพราะเสี่ยงต่อการเรียกรับเงินหรือเป็นเหยื่อในสื่อโซเชี่ยลมีเดีย ที่อาจจะถ่ายคลิปไปอ้างว่าตำรวจเรียกรับเงินได้
เปรียบเทียบปรับขยับไปอีก2กม.
จากนี้ไปจุดออกใบสั่งกับจุดเปรียบเทียบปรับจะอยู่ห่างกันออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร โดยให้ตั้งแนวเขตถนนให้ชัดเจน มีกรวยวางชัดเจน แล้วจุดตั้งนั้นจะเป็นจุดปรับที่เราจัดตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างน้อย 3 ตัว
ผิดครั้งแรกให้ว่ากล่าวตักเตือน
“เมื่อชาวบ้านที่ถือใบสั่งเข้ามาเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบประวัติตามระบบหมายจับ จากนั้นจะให้ตำรวจอธิบายข้อหาที่กระทำความผิด เช่น ขับรถเร็ว เปลี่ยนช่องทาง ฝ่าฝืนเครื่องหมาย หรือข้อหาอื่นๆ
หากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกจะให้ว่ากล่าวตักเตือน พร้อมกับจัดเก็บข้อมูลไว้ ยังไม่มีการปรับ
แต่หากพบว่าทำผิดซ้ำครั้งที่สองถึงจะดำเนินการจับกุม
สั่งผู้การทางหลวงไปทำให้ดี
ขณะนี้ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงกำลังไปคิดในรายละเอียดและวิธีการที่ประชาชนจะได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุด “
เก็บบันทึกข้อมูลคนขับดูพฤติกรรม
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าว และบอกว่า ข้อมูลที่เก็บบันทึกไว้นั้นจะเป็นข้อมูลที่ออนไลน์ทั่วประเทศเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมในการขับขี่ของผู้กระทำความผิดได้ด้วย
เน้นว่ากล่าวตักเตือนหากทำผิดครั้งแรก ไม่ใช่ตั้งใจจะเอาค่าปรับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เซตซีโร่ทางหลวงทั้งประเทศ
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นี่คือการแก้ไขปัญหา คือ การเซตซีโร่ของการตั้งด่านของตำรวจทางหลวงท้่วประเทศ
นำนศ.ฝึกงานร่วมจุดเปรียบเทียบปรับ
ในพื้นที่บริเวณที่เสียค่าปรับนั้นนอกจากจะมีตำรวจที่แต่งเครื่องแบบแล้ว จะให้นำนักศึกษาฝึกงานเข้ามาร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วย
ไม่ใช่ให้นักศึกษาไปทำงานอื่น เช่น แกะข้าว ชงกาแฟ แต่ต้องได้ทำงานจริง และให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนในส่วนบริการตรงนี้ด้วย
เพราะนักศึกษาฝึกงานเหล่านี้ คาดว่าจะสามารถรับอารมณ์จากชาวบ้านได้ดีกว่า
ที่สำคัญพวกนี้คือกระบอกเสียงของตำรวจในวันข้างหน้า คือให้นักศึกษามีความรู้สึกว่า อาชีพตำรวจวันๆหนึ่ง ต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง จะได้ซึมซับความรู้สึกของตำรวจด้วย
ตั้งด่านห้ามมั่วเน้นจุดจำเป็น
“ผมได้ย้ำให้ไปพิจารณาจุดตั้งด่านใหม่ด้วย โดยให้คำนึกถึงองค์ประกอบของจุดที่จำเป็นต้องตั้งด่าน ไปใช่ตั้งไปมั่ว แต่ต้องอธิบายได้
เช่น ตั้งตรงจุดที่มันเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด อันตรายที่สุด หรือเขตโรงเรียน เขตชุมชน เพื่อให้ผู้ขับขี่จะได้ชะลอความเร็ว เช่นนี้เป็นต้น” ผบช.ก. กล่าว