พล.อ.ประวิตร เป็นประธานในพิธีมอบคืนโฉนดให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกู้ยืมเงิน ตามนโยบาย“มาตรการคืนโฉนดที่ดินและคืนความสุขให้กับประชาชน ครั้งที่ 3”
เมื่อวันที่ 20ก.ย. ที่ลานอเนกประสงศ์ ศาลาว่าการจังหวัดกาฬสินธุ์(หลังเก่า) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบคืนโฉนดให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกู้ยืมเงินโดยสัญญาไม่เป็นธรรม
ภายในงานมีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัตน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ตต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศให้การต้อนรับ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะที่ผ่านมาหลายรัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหา และจากนี้ไปอยากให้ตำรวจขับเคลื่อนนโยบายแบบบูรณาการ เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยกระดับชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
ในวันนี้ถือเป็นครั้งที่สามที่ได้มีการคืนโฉนดให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นพี่น้องประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับความไม่เป็นธรรมจากการทำสัญญากู้ยืมอันไม่เป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วที่จ.ขอนแก่น และอุดรธานี
ทั้งนี้รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำคนยากจนเข้าสู่ระบบแหล่งการเงินมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งแหล่งเงินกู้นอกระบบ และสนับสนุนระบบฟิโกไฟแนนซ์เยอะๆทำให้นายทุนเข้าสู่ระบบมากที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนมีหนี้สิน
ส่วนภาคการเกษตรที่ไม่มีการยืมที่ถูกต้อง จากนี้ประชาชนสามารถไปกู้ยืมได้ที่ ธกส. หรือกองทุนต่างๆที่รัฐบาลได้วางแนวทางไว้ รัฐบาลจะช่วยเรื่องของสินเชื่อเพื่อการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และมีแหล่งกู้ยืมเงินทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น อีกทั้งห่วงใยราคาข้าว อ้อย และผลผลิตทางการเกษตรที่ราคาตก ซึ่งพยายามลดต้นทุน ราคาปุ๋ย และอื่นๆ ให้ถูกลง
นอกจากนี้ยังได้ให้ตำรวจเฝ้ากวาดล้างอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์ดำรงธรรมและศูนย์ป้องกันและปราบปราบการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่องราวร้องทุกข์และดำเนินการกวาดล้างหนี้นอกระบบให้หมดไปในวันนี้มาแจกโฉนดที่ดินให้กับประชาชน โดยแจกจ่ายพร้อมกันทั่วทุกภาคในประเทศไทย
พร้อมระบุปลื้มใจที่เห็นประชาชนได้รับโฉนดคืนเนื่องจากบางคนถูกยึดนานกว่า 30 ปี
อย่างไรก็ตามภาพรวมส่วนถือว่าเป็นที่พอใจ โดยขณะนี้พยายามที่จะทำให้ได้มากที่สุด และไม่หยุดแค่เพียงเท่านี้ หลายหน่วยงานต้องเข้ามาบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากต้องใช้บุคคลากรเจ้าหน้าที่เจ้านวนมากในการเจ้าไปร่วมไกล่เกลี่ย อาจทำให้ล่าช้าไปบ้าง แต่ถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี
สอดรับกับพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันจะเดินหน้าปราบปรามบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการเจรจาประนอมหนี้กับนายทุนและชาวบ้าน นำมาตรการฟอกเงินมาบังคับใช้ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งรัฐบาลห่วงใยปัญหาดังกล่าว เป็นความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะเดินหน้าแก้ไขไปด้วยกัน ไม่ปล่อยไทยไว้ข้างหลัง เราจะสร้างไทยไปด้วยกัน
จากการบูรณาการร่วมกันบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่เดือนก.คที่ผ่านมา สามารถคืนโฉนดให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกว่า 8000 รายทั่วประเทศ เป็นจำนวน7000 กว่าโฉนด มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและเป็นรูปธรรม พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการร่วมกับกระทรวงการคลัง สร้างแหล่งเงินกู้อย่างถาวรยั่งยืนในพื้นถิ่นตำบลหมู่บ้านและจังหวัด ผ่านฟิโกไฟแนนซ์ และนาโนไฟแนนซ์ เพื่อที่จะให้ชาวบ้านมีแหล่งเงินกู้โดยไม่มีหลักประกัน และเพื่อเป็นการตัดวงจรไม่ให้ชาวบ้านนำโฉนดที่ดินกลับไปสู่นายทุนอีก
สำหรับภาพรวมของการมอบคืนโฉนดที่ดินแก่เหยื่อแก๊งดอกเบี้ยโหดที่ผ่านการไกล่เกลี่ยตามนโยบายของรัฐบาลทั่วประเทศครั้งที่ 3 สามารถไกล่เกลี่ย4236 รายโฉนด จำนวน 3285 โฉนด เนื้อที่ 10,618 ไร่ 30 งาน 3.7 ตรว. ตรวจยึดรถยนต์ 121 คัน ตรวจยึดรถจยย. 504 คัน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,273,504,227 บาท
โดยในพื้นที่ภาค4 สามารถไกล่เกลี่ยโฉนด จำนวน 1,358 ราย 1,534 โฉนด เนื้อที่ 5,285 ไร่ 31ตรว. รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,249,175,208 บาท รองผบช.ทท. กล่าวว่า
ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่นพี่น้องประชาชนต่างยินดี บางคนก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ จากนั้นก็ได้นำช่อดอกไม้และผ้าขาวม้ามาคาดที่เอวของพล.อ.ประวิตร เพื่อแสดงความขอบคุณ ที่ช่วยจัดการคืนที่ให้กับประชาชน
ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่นพี่น้องประชาชนต่างยินดี บางคนก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ จากนั้นก็ได้นำช่อดอกไม้และผ้าขาวม้ามาคาดที่เอวของพล.อ.ประวิตร เพื่อแสดงความขอบคุณ ที่ช่วยจัดการคืนที่ให้กับประชาชน!!