Friday, December 19, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน“บิ๊กรุทธ”ลั่นโชว์ผลงานปราบสแกมเมอร์4เครือข่ายสำคัญ

    “บิ๊กรุทธ”ลั่นโชว์ผลงานปราบสแกมเมอร์4เครือข่ายสำคัญ

    “บิ๊กรุทธ”โชว์ผลงานปราบสแกมเมอร์ ยึดอายัดทรัพย์หลายเครือข่าย ลั่นไทยจีนจับมือเอาจริง ห่วงการสแกนม่านตาทำบัญชีม้า

    เช้าวันที่ 19 ธ.ค.68 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม.

    พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม เป็นประธานปาฐกถาพิเศษเรื่อง “นโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”หาแนวทางการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา 

    พล.ต.ท.รุทธพลกล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยบูรณาการทุกภาคส่วน

    ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ตนได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  มีหลายหน่วยร่วมปฏิบัติ เช่น ป.ป.ง., ตำรวจไซเบอร์ เป็นต้น

    ได้ขับเคลื่อนงานในความรับผิดชอบมาตั้งแต่ 24 ต.ค.2568 จนถึงปัจจุบันโดยมีแนวทางสำคัญในการดำเนินการ สรุปดังนี้ 

    1. การเสริมสร้างขีดความสามารถทางดิจิทัลของหน่วยงานยุติธรรม โดยผลักดันการยกระดับความสามารถด้านดิจิทัลของเจ้าหน้าที่เพิ่มการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อให้สามารถติดตาม ตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐานทางเทคโนโลยีได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และเป็นสากล

    2. การพัฒนากฎหมายและมาตรการทางนโยบายที่ทันสมัย สอดรับกับอาชญากรรมยุคใหม่ โดยส่งเสริมการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถรับมือกับอาชญากรรมออนไลน์ที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    3. การเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ธนาคาร สถาบันการเงินและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และโทรคมนาคม เพื่อพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและมาตรการป้องกันล่วงหน้า รวมถึงสนับสนุนให้ประชาชนมีความรู้เท่าทันภัยออนไลน์

    4. การขยายความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อรับมืออาชญากรรมข้ามพรมแดน ส่งเสริมความร่วมมือกับหน่วยงานนานาชาติ ร่วมสืบสวนสอบสวนและสนับสนุนการปฏิบัติ

    5. การคุ้มครองประชาชน และผู้เสียหายอย่างเป็นระบบ ผลักดันการพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้เสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมที่สะดวกและมาตรการช่วยเหลือด้านกฎหมาย

    พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า  ผลการปฏิบัติที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. 68 – 16 ธ.ค. 68  ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนด้วยดี จนทำให้ยึด อายัดทรัพย์สินผู้กระทำความผิด มูลค่ากว่า 19.6 ล้านบาท ช่วยเหลือเหยื่อ 118 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 61.9 ล้านบาท ดำเนินคดีสำคัญที่น่าสนใจ เช่น 

    1. คดีนายเฉิน จื้อ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่ม บริษัท Prince Holding Group กลุ่มธุรกิจข้ามชาติในกัมพูชา หลอกลวงผู้เสียหายมูลค่ากว่า 373 ล้านบาท

    2. คดีนายก๊ก อาน ขบวนการเครือข่ายสแกมเมอร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 467 ล้านบาท

    3. คดีนางสาวแตงไทย บ้านมะหิพงษ์ ขบวนการเครือข่ายสแกมเมอร์ เกี่ยวโยงผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา มูลค่าความเสียหายกว่า 9,279 ล้านบาท

    4. ปฏิบัติการทลายเหมืองบิตคอยน์เถื่อน “Operation Copperhead” (โอเปอร์เรชั่น คอปเปอร์เฮด) เครือข่ายจีนเทาและเมียนมา มูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท

    พล.ต.ท.รุทธพลกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทั้งไทยและจีนกำลังเอาจริงและดำเนินการกับอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเข้มข้น และจากการหารือกับนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน

    ทราบว่าล่าสุดมีการรับตัวชาวจีนที่เมียนมา กลับไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายที่จีนหลายพันคน นอกจากนี้ สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่คือ กรณีการสแกนม่านตาแลกเงินดิจิทัลกำลังตรวจสอบการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ MOU กับบริษัทสิงคโปร์ 

    “ม่านตาถือว่าเป็นอัตลักษณ์ส่วนบุคคล เรากังวลว่าหากมีการนำข้อมูลตรงนี้ไปเปิดบัญชีม้า ก็จะได้บัญชีม้ากว่า 1.2 ล้านบัญชี อาจนำไปสู่การทำนิติกรรมที่ผิดกฎหมายหรือการหลอกลวงประชาชน ขอย้ำว่าอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องไกลตัว“ รมว.ยุติธรรม กล่าว

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments