จับได้ที่งาว ลำปาง ยืนยันไม่มีศักยภาพเป็น “หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกโอนเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว
กลางดึกวันที่19ก.ค.67 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ฯ รรท.ผบช.ภ.5 ชี้แจงกรณีตำรวจ ภ.5 จับกุมพ.ต.ท.คนการรับจ้างวาง SIM BOX
ก่อนการจับกุม การสืบสวนเริ่มจากการรับแจ้งจากผู้เสียหายประกอบกับได้มีการเก็บฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาหลอกผู้เสียหายนำมาวิเคราะห์โดยเครื่องมือพิเศษ เพื่อ
ค้นหาแหล่งที่มาของสัญญาณโทรศัพท์พบว่ามีการใช้โทรศัพท์ผ่านเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ (SIM BOX) มีจุดติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จำนวน 2 จุด…
ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทดโนโลยีสารสนเทศ ตำราจภูธรภาค 5 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอขอหมายค้น 2 จุด ดังนี้1. โครงการบ้านเอื้ออาทรป่าต้น 1 ต.ป้าต้น อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พื้นที่ สภ.ช้างเผือก และ2.โครงการบ้านเอื้ออาทรไนท์ซาฟารี ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พื้นที่ สภ.หางดง ทั้ง 2 จุด เป็นคนเดียวกัน คือน.ส.วนัชพร อัครศิริสินโสภณ (สมาย) อายุ 26 ปี
ผลการตรวจค้นพบ น.ส.วนัชพร อัครศิริสินโสกณ (สมาย) อายุ 26 ปี เป็นผู้เช่า และพบนายธีรารัตน์ อินต๊ะวัน (ธี) อายุ 22 ปี อยู่ภายในห้องพัก (ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา)พบเครื่องแปลงสัญาณโทรศัพท์ (SIM BOX) 8เครื่อง (จุดละ 4 เครื่อง) แต่ละเครื่องมี 32 ช่องสัญญาณซึ่งสามารถโทรศัพท์ได้พร้อมกันกว่า 300 หมายเลข
น.ส.สมาย รับว่าใช้ห้องพักทั้ง 2 จุด เป็นจุดติดตั้งเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ (SIM BOX) รับส่งคลื่นทางอินเทอร์เน็ตในการโทรหลอกลวงเหยื่อ
จากการสืบสวนขยายผลน.ส.สมาย ยังให้การอีกว่า ยังมีอีก 1 จุด ที่ใช้เป็นจุดติดตั้งเครื่อง SIM BOX คือ ห้องพักในโครงการบ้านเอื้ออาทรสันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พื้นที่ สภ.แม่ปิง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้น พบเครื่อง SIM BOX อีก4 เครื่องน.ส.สมาย ให้การซัดทอดว่า ได้รับการติดต่อจาก น.ส. Nang Thuzar Nyein (แคท) อายุ 25 ปีสัญชาติเมียนมา และ น.ส.สุวรรณลักษณ์ พงษ์ยศ (ต้า) อายุ 25 ปี ว่าจ้างให้จัดหาสถานที่ติดตั้ดตั้งเครื่อง SIM BOX โดยได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว น.ส.แคทและ น.ส.ต้า มาเพื่อสอบปากคำ ทั้งสองให้การรับสารภาพ โดย ให้การว่า ได้รับการติดต่อจาก น.ส. Nang Kein Kham (เก๋ง) สัญชาติเมียนมา ให้ นำเครื่อง SIM BOX จากประเทศพม่า เข้ามาในประเทศไทยและหาจุดติดตั้ง ได้รับค่าตอบแทนรวมกันเดือนละ 50,000 บาทหากติดตั้งเครื่อง SIM BOX ครบ 40 เครื่อง จะได้รับค่าจ้างจาก น.ส.เก๋ง เดือนละ 200,000 บาท เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุม น.ส.เก๋ง และผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นๆ มาดำเนินคดีต่อไป
สรุปผลการตรวจค้นทั้ง 3 จุดจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ตรวจยึดของกลางได้ ดังนี้ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ (SIM BOX) ทั้งหมด 12 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ด อุปกรณ์สำรองไฟฟ้า และอื่นๆ อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือทั้งหมด 3 เครื่อง
พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา ทั้ง4คน 1. ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมพ.ศ.2498
2.ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาดจากเจ้าพนักงานผู้อกใบอนุญาต ตามมาตรา 11 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498
3. ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยได้รับอนุญาดอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ตามมาตรา 67(3)ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม
สรุปคดีนี้ 1) น.ส.Nang Kein Kham (เก๋ง) สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ว่าจ้าง น.ส.Nang Thuzar Nyein (แคท)สัญชาติเมียนมา และ น.ส.สุวรรณลักษณ์ พงษ์ยศ (ต้า) บุตรพ.ต.ท.บัณฑิต คนการ กับภรรยาคนปัจจุบัน ทั้งน.ส.แคท และ น.ส.สุวรรณลักษณ์ฯประกอบอาชีพเป็นสาวบริการอยู่ที่ท่าขี้เหล็ก ให้หาจุดวาง SIM BOX ในเมืองเชียงใหม่
2) น.ส.แคท และ น.ส.สุวรรณลักษณ์ฯ มาบอกการว่าจ้างกับ น.ส.วนัชพร อัครศิริสินโสภณ (สมาย) บุตรของพ.ต.ท.บัณฑิตฯกับภรรยาเก่าและนายธีรวัฒน์ อินต๊ะวัน (ธี) ซึ่งเป็นแฟนของน.ส.วนัชพรฯ
3) วันที่ 8 ก.ค. 67 ตำรวจเข้าตรวจค้นพบ SIM BOX 12 เครื่องและจับกุมตัวทั้ง 4คนได้ ณ จุดที่เข้าตรวจค้น แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องมืองมือวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคมฯ
ทั้ง น.ส.สุวรรณลักษณ์ฯ และ น.ส.วนัชพรฯ เป็นบุตรของพ.ต.ท. บัณฑิต รับว่า บิดาร่วมรับรู้และร่วมกันรับจ้างวางจุด SIM BOX ของกลาง ณ จุดที่เข้าตรวจค้นพบ SIM BOX ของกลางนี้
4) วันที่ 18 ก.ค. 67 ศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับพ.ต.ท.บัณฑิตฯและต่อมาวันที่ 19 ก.ค. 67 ติดตามจับกุมตัวพ.ต.ท.บัณฑิตฯได้ที่ อ.งาว จว.ลำปาง แจ้งข้อกล่าวหาตามข้างต้นให้ พ.ต.ต.บัณฑิตฯรับทราบและนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในเบื้องต้นนี้ จากพฤติการณ์การกระทำความผิดของ พ.ต.ท.บัณฑิต คนการ ผู้ต้องหา มีพยานหลักฐานสามารถพิสูจน์ความผิดได้ว่าร่วมกับพวกและบุตรรับจ้างวาง SIM BOX ของกลางตามจุดที่เข้าตรวจค้นพบเท่านั้น ยืนยันได้ว่า พ.ท.ท.บัณฑิตฯ ไม่มีศักยภาพประกอบกับยังไม่พยานหลักฐานใดยืนยันว่า พ.ต.ท.บัณฑิตฯเป็น “หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกโอนเงินแต่อย่างใด