เมื่อวันที่ 14 เมษายน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.) หรือ 191 กล่าวถึงการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ 12 นายในสังกัด บก.191 และกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน(อคฝ.) กรณีถูกกล่าวหาเรียกรับผลประโยชน์ เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ร้านอะไหล่ยนต์
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนยอมไม่ได้ หากผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิด หรือเพียงถูกกล่าวหาว่าทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ต้องตรวจสอบดำเนินการทันที เมื่ออยู่ในความรับผิดชอบของตน ก็ต้องดำเนินการเด็ดขาด คนไม่ดี ก็ไม่เอาไว้ และตนไม่พาดพิงใคร เมื่อเกิดเหตุในตอนนี้ตนก็ต้องดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายในฐานะผู้บังคับบัญชา ตนยืนยันว่าไม่เคยตั้งชุดเฉพาะกิจ ขึ้นมาแต่อย่างใด ไม่มีชุดทำงานแบบนั้น ที่สั่งไปทำงานพิเศษ และยืนยันว่าจสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นถ้าใครผิดไม่ละเว้น ที่ผ่านมาตั้งแต่รับตำแหน่ง ผบก.สปพ.ประชุมผู้ใต้บังคับบัญชาทุกเดือน สั่งการกำชับทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษรกำชับตำรวจ 191 ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่เรียกรับผลประโยชน์ ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข ห้ามข้องเกี่ยวกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ สั่งห้ามเด็ดขาด ย้ำทุกเดือน
“ที่ผ่านมา เมื่อทราบว่ามีตำรวจในสังกัดคนไหนไปทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ผมก็เรียกตักเตือน ให้เลิกให้เปลี่ยนพฤติกรรมเสีย แต่ถ้าเป็นกรณีที่รุนแรงทำให้ประชาชนเสียหายก็ต้องจัดการ ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท้จจริงและดำเนินการทางวินัยทันที กรณีนี้ก็เช่นกัน ที่ผ่านมาผมเตือนตำรวจในสังกัด กำชับในที่ประชุม ปรามกันมาตลอด แต่ครั้งนี้เมื่อมีการนำหลักฐานไปแสดงในสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ ทันทีที่ผมทราบในวันเดียวกันผมสั่งตั้งกรรมการสอบทันที ให้รองผบก. 191 ที่อาวุโสสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะ มีกรรมการ 3 คน สั่งสอบทันทีอย่างละเอียด รอบคอบ เป็นธรรม และรีบรายงาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ในวันรุ่งขึ้น ผบ.ตร.ก็สั่งการมีคำสั่ง ตร.ให้ย้ายตำรวจทั้ง 12 นาย ที่มีหน้าที่กี่ยวข้องกับเรื่องที่ถูกกล่าวหา ช่วยราชการที่ศปก.ตร.ไว้ก่อน และทราบว่าผบ.ตร.สั่งการกองวินัย ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอีกชั้นหนึ่งด้วย เรื่องนี้ทั้งผม และผบ.ตร.ไม่นิ่งนอนใจ ยอมไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าทำผิดจริง หากไปทำให้ประชาชนเดือดร้อนตามที่ถูกกล่าวหาว่าไปเรียกรับเงินกันเป็นแสนๆ แบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องจริงเช่นนี้ผิดแน่นอน สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เอาไว้หรอก ตำรวจ 12 นายคล้ายตัวแทนตำรวจทั้งประเทศ สังคมกำลังจับตามองว่าผมและผู้บังคับบัญชาจะจัดการกับตำรวจกลุ่มนี้อย่างไร ยืนยันเลยว่าเรื่องนี้ไม่มีคำว่านโยบาย ผิดก็ผิด เราไม่ช่วยเหลือแน่นอน คนไม่ดีเราไม่เอาไว้ ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดไม่มิดหรอก ตำรวจทั่วประเทศมีทั้งดี และไม่ดี แต่คนไม่ดีที่ทำผิด ทำประชาชน ประเทศชาติเสียหายเราไม่เอาไว้ กรณีนี้ถึงจะมีตำแหน่งระดับไหน แต่หากตรวจพบว่ารู้เห็นกระทำผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าเราไม่นิ่งนอนใจ ” ผบก.191 กล่าว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการกำลังสืบสวนข้อเท็จจริง ภายในสัปดาห์หน้า หลังช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์จะมีความชัดเจน ตอนนี้ให้คณะกรรมการตรวจสอบยืนยันข้อเท็จจริงว่าข้อมูลที่มีการนำไปแพร่ใน สปท. กับข้อมูลที่สืบสวนได้ตรงกันหรือไม่ ถ้าตรงกันว่าไปเรียกรับผลประโยชน์จริง ใครใน 12 คนนี้เข้าไปเกี่ยวข้องบ้างก็ต้องถูกดำเนินการทางวินัยทุกราย ตนต้องรายงานต่อ ผบ.ตร.ผ่านกองวินัย หากพบว่า ผิด ต้องถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง ให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ขณะเดียวกันกรณีนี้มีการร้องทุกข์ทางอาญาด้วย โดยในสัปดาห์หน้าจะนัดผู้เสียหายมาสอบปากคำ หากยืนยันมีหลักฐานว่าถูกตำรวจรีดไถ ตำรวจกลุ่มนี้ก็ต้องถูกดำเนินคดีอาญา ส่วนหนึ่งคือผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบ ก็ต้องถูกดำเนินคดีและต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการตามกฎหมายด้วย