ปคบ.บุกจับ 2 คดีสำคัญ ทลายโรงสีเก่าลอบผลิตซิลิโคนเถื่อนส่งคลีนิกทั่วประเทศ พร้อม บุกยึดยาเถื่อนคลีนิกหรูกลางกรุง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ม.ค.66 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.4 บก.ปคบ. นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
ร่วมกันแถลงผลจับกุมคดีสำคัญ 2 คดี ประกอบด้วย บุกตรวจยึดยาเถื่อนคลินิกหรูย่านเกษร มูลค่าของกลางกว่า 5 ล้านบาท และ บุกตรวจยึดซิลิโคนศัลยกรรมเถื่อน ผลิตจากโรงสีส่งคลินิกเสริมความงามรายใหญ่
พ.ต.ท.สุพจน์ กล่าวว่า คดีแรก เจ้าหน้าที่นำกำลังพร้อมหมายค้นตรวจสอบคลินิกชื่อดังแห่งหนึ่ง ในอาคารเกษรทาวเวอร์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เปิดให้บริการทางเวชกรรม, กายภาพบำบัด, แพทย์แผนไทยประยุกต์
หลังพบใช้ยานำเข้าที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และ อาหารเสริมที่มีผสมยาอันตราย มาให้บริการหรือรักษาให้กับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ในลักษณะขายเป็นคอร์สแพ็คเกจต่างๆเช่น ดีท็อกซ์สารพิษ, ชะลอวัยด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และการฉีดวิตามินเพื่อบำรุงตับและสมองรักษาอาการเจ็ทแล็ก เพิ่มพลังงานกับร่างกายให้รู้สึกสดชื่นและมีสมาธิ
แต่ละคอร์สหรือแพ็คเกจจะมีราคาแตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่ 1,000 ไปจนถึง 2,000,000 บาท จากการตรวจสอบสามารถตรวจยึดยาและอาหารเสริมดังกล่าวได้ 252 รายการ รวมมูลค่า 5,977,000 บาท
รองผกก.4.บก.ปคบ. กล่าวต่อว่า คลินิกดังกล่าว เน้นรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ โดยจะให้ผู้เข้ารับบริการตรวจเลือดก่อน จากนั้นจะนำเลือดไปตรวจวิเคราะห์ แล้วเสนอขายคอร์ส หรือขายยาให้ลูกค้า อ้างว่าเป็นยาที่ไม่มีขายในประเทศไทย มีเฉพาะคลินิกนี้เท่านั้น
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ออกหมายเรียกกรรมการบริษัทฯ เพื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานขายยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา, จำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง” ส่วนแพทย์ที่มีชื่อเป็นผู้ดำเนินการในคลินิกดังกล่าว มีความผิดฐาน “ไม่จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จําเป็นประจำสถานพยาบาลฯ ตามชนิดที่กําหนดในกฎกระทรวง” นอกจากนี้หากผลตรวจวิเคราะห์อาหารเสริมหากพบมีการผสมสารอันตรายจริงก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ธรากร กล่าวว่า คดีที่สอง เจ้าหน้าที่กก.4 บก. ปคบ. ร่วมกับ อย. และ สสจ.สุพรรณบุรี นำหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าตรวจค้นโรงสีร้างในพื้นที่ ม. 1 ต.วังหว้า อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี หลังสืบสวนขยายผลจากการจับกุมครั้งที่แล้ว เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 จนทราบว่าสถานที่ดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งลักลอบผลิตชิ้นส่วนซิลิโคนศัลยกรรมเสริมจมูกและหน้าผาก ส่งคลินิกต่างๆ ทั่วประเทศ
จากการตรวจสอบตรวจยึด เครื่องจักรสำหรับผลิตซิลิโคนจมูกและหน้าผาก, แม่พิมพ์ซิลิโคนทรงต่างๆ มีทั้งของดารานางเอกดัง เบลล่า ราณี ,อั้ม พัชราภา และดาราคนอื่นๆ อีกจำนวน 68 แบบ, ซิลิโคนเสริมจมูกและหน้าผากสำเร็จรูป 1,098 ชิ้น และอุปกรณ์ส่วนควบในการผลิตซิลิโคนศัลยกรรม กว่า 16 รายการ รวมมูลค่า 3,500,000 บาท
พร้อมกับดำเนินคดี น.ส.ณัฐปภัสร์ หรือ น้ำตาล (สงวนนามสกุล) ผู้ผลิตซิลิโคนเถื่อนในความผิดฐาน “ผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับใบรับแจ้งรายการละเอียด” ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้วประมาณ 2 ปี
พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า หลังตรวจยึดจับกุมโรงสีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังคงขยายผลต่อเนื่อง จนทราบว่ามีพนักงานฝ่ายจัดซื้อของ บริษัท เค เมดิคอล (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้สั่งผลิต เมื่อผลิตเสร็จเรียบร้อยจะถูกส่งไปที่ กรวินคลินิก สาขางามวงศ์วาน และสาขาขอนแก่น ก่อนกระจายไปอีกกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ เพื่อใช้ในงานศัลยกรรมให้ลูกค้า
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานการจ่ายเงินค่าซิลิโคนในห้วงปี 2565 มากกว่า 2 ล้านบาท จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบกรวินคลินิกสาขาต่างๆทั่วประเทศ จนสามารถตรวจยึดชิ้นส่วนซิลิโคนรูปจมูก 12,282 ชิ้น, ซิลิโคนหน้าผาก 2,775 ชิ้น, ซิลิโคนคาง 1,107 ชิ้น, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 จำนวน 998 รายการ,
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 474 รายการ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 จำนวน 428 รายการ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ. อาหาร พ.ศ.2522 จำนวน 55 รายการ รวมมูลค่า 2,932,000 บาท
ผกก.4.บก.ปคบ. กล่าวอีกว่า ต้นทุนการผลิตซิลิโคนเถื่อนเหล่านี้แต่ละชิ้นละจะอยู่ที่ประมาณ 60-80 บาท แต่ขายคอร์สผ่าตัดศัลยกรรมในราคา 4,900-50,000 บาท และจากการตรวจสอบผู้รับบริการศัลยกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 ถึงปัจจุบันพบว่า มีการผ่าตัดศัลกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชิ้นส่วนซิลิโคนกว่า 1,621 ราย เป็นการเสริมจมูก 1,436 ราย, คาง 154 ราย และเสริมจมูกกับคางพร้อมกัน 31 ราย
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ออกหมายเรียกกลุ่มผู้ต้องหาให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วในความผิดฐานร่วมกันขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตฯ ,ร่วมกันขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้,ร่วมกันขายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา , ร่วมกันขายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง , ร่วมกันจำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง