วันที่ 23 มิ.ย.66 พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.สั่งการ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ปคบ. พร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจสอบ “ยองชางคลินิกเวชกรรม”
จับกุมนายพิมพ์ลภัส อายุ 33 ปี ที่แสดงตัวเป็นแพทย์ ในขัอหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดย ไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตํารับยา จับได้ในคลีนิคดังกล่าว ภายในโรงแรม ย่านลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก บก.ปคบ.ได้รับร้องเรียนว่า ที่คลีนิกดังกล่าว เปิดให้บริการรับฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ ให้ประชาชนทั่วไป มีพฤติกรรมต้องสงสัยใช้บุคลากรที่ไม่ใช่แพทย์ตรวจรักษาประชาชน และเปิดดําเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนพร้อมขอหมายค้นเข้าตรวจค้น พบนายพิมพ์ลภัส อายุ 33 ปี แสดงตัวเป็นแพทย์ กำลังตรวจรักษาและฉีดยาเข้าบริเวณใบหน้าให้กับลูกค้า เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และ ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม อีกทั้งคลินิกดังกล่าวยังไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดยาและอุปกรณ์ต่างๆภายในคลินิกไว้เป็นของกลาง
สอบสวน นายพิมพ์ลภัส ให้การรับสารภาพ ไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้ความชํานาญอย่างแพทย์ผู้มีวิชาชีพแต่อย่างใด เพราะเรียนจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี สาขานิเทศศาสตร์ แต่อาศัยประสบการณ์เคยทํางานในคลินิกเสริมความงาม ตําแหน่งผู้ช่วยแพทย์ ทำให้พอมีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์บ้าง
ประกอบกับมีความสนใจในด้านศัลยกรรมเสริม ความงามและเห็นช่องทางว่ามีรายได้ดีจึงเริ่มรับงาน แอบอ้างตัวเป็นแพทย์เฉพาะทางรับฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ และรับงานรักษา ทํามาแล้วประมาณ 5 ปี มีรายได้ เดือนละ 20,000- 40,000 บาท สําหรับ ยองชางคลินิกเวชกรรม เริ่มเข้ามาทําได้ประมาณ 2 เดือนก่อนจะถูกจับ
นอกจากนี้ นายพิมพ์ลภัส ยังยอมรับว่า ที่ผ่านมาเคยฉีดฟิลเลอร์ บริเวณหน้าผากให้แก่ลูกค้า แพทย์โดยทั่วไปจะไม่รับฉีดบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นจุดที่มีความอันตรายสูง เพราะมีเส้นเลือดเชื่อมต่อไปยังจอประสาทตา และสมอง หากไม่มีความชํานาญมากพอ อาจทําให้ตาบอดได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดย ไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตํารับยา” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป