วันที่ 18 ส.ค.65 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 ,พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 ,พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส. ภ.8 ,พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รอง ผบก.ภ.จว.ระนอง ปรก.รอง ผบก.สส.ภ.8 ,พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.สส 3 บก.สส.ภ.8 พ.ต.ท.จงเสริม ปรีชา รอง ผกก สส.3 บก.สส.ภ.8 พ.ต.ท.พิเชษฐ์ เสาแบน รอง ผกก. สส.3
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กิตติพันธ์ ศิริพร สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ปฏิบัติราชการ สว.กก.3 บก.สส.ภ.8 ร.ต.อ.อภิรักษ์ ทองนาโพธิ์ รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร.ต.อ.ปรัชญา ชัยงาม รอง สว.กก.1ฯ ร.ต.ท.แสงชัย สุทธิงาม ด.ต.ไกรศรี หีตนาคราม ด.ต.กิติศักดิ์ โรชณะกาญ ด.ต.ขวัญชัย คร้ามปั่น และ ส.ต.อ.ภาณุวัฒน์ สูงสง่าวงศ์
ประสานพล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม.พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.,พ.ต.ท.ภคพล สุชล, รอง ผกก.5 บก.ปคม.พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม.
นำกำลังจับกุมนายเอกชัย อายุ 43 ปี และนายกฤษณะ อายุ 40 ปี ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ จับได้โรงแรมม่านรูด ในพื้นที่ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี
พ.ต.อ.กึกก้อง เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจาก บก.สส.บช.ภ. 8 ว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้าย 2 คน เข้าไปลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ภายในห้างเทสโก้โลตัส จ.ชุมพร
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้าย ได้เข้ามาดูความเคลื่อนไหวก่อนจะมาก่อเหตุ 1 วัน ทำทีมากินข้าวภายในห้าง เพื่อเลือกร้านที่จะก่อเหตุ จากนั้นได้วางแผนเข้ามาลักทรัพย์ อาศัยช่วงที่ห้างเปิดตอนเช้ายังไม่ค่อยมีพนักงานมาทำงาน มุดเข้าไปในร้านโทรศัพท์ที่ยังไม่เปิด งัดตู้เก็บโทรศัพท์มือถือ ได้ไป 18 เครื่อง มูลค่า เกือบ 2 แสนบาท แล้วหลบหนีไป
ผกก.5.บก.ปคม.กล่าวต่อว่า สืบสวน ทราบว่าคนร้ายคือนายเอกชัย และ นายกฤษณะ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์โทรศัพท์ตามห้างมานับ 10 คดี และยังมีหมายจับคดีลักทรัพย์อีกหลายคดีที่ยังต้องการตัวอยู่ รวมค่าความเสียหายที่ทั้งคู่ตระเวนก่อเหตุตามห้างในหลายจังหวัด รวมเกือบ 2 ล้านบาท ได้สืบสวนติดตามจับกุมทั้งคู่เอาไว้ได้ ตรวจค้นพบเงินสด 1 แสนบาท จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง
สอบสวนทั้งคู่รับสารภาพ ลักโทรศัพท์มือถือ 18 เครือง จากห้างโลตัสชุมพร จากนั้นนำไปขายที่ห้างย่านปทุมวัน ส่วนที่เลือกเข้าไปลักทรัพย์ ร้านโทรศัพท์ในห้างนั้น เพราะส่วนใหญ่เจ้าของร้านจะเก็บโทรศัพท์ไว้ในตู้ หรือในลิ้นชัก จะอาศัยช่วงเช้าพนักงานไม่ค่อยมี ทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุ เงินที่ได้มานำไปซื้อยาเสพติดและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นำตัวทั้งคู่ส่ง สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีรวมทั้งประสานโรงพักต่างๆ มาอายัดตัวต่อไป