“นักรบย่อมมีบาดแผล” กากีธนฯ วงรอบสัปดาห์นี้ Green Bear.ขอนำเสนอเรื่องราวของนายตำรวจรุ่นใหญ่วัยเก๋า ผู้ทำหน้าที่เป็นครูฝึกชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีดำ ของ กก.สส.บก.น.8 ผ่านประสบการณ์ถูกคนร้ายยิงขณะเข้าล่อซื้อจับยา ส่องปืนลั่นไกวิสามัญฆาตกรรมวายร้ายมาเกินกว่า 100 ศพ
“ครูต๊อด” ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.8 เจ้าของฉายา “แหลม ประเทศไทย” บุตรชาย นางเรณู – พ.ต.ท.ชัยณรงค์ พูลสวัสดิ์ (นรต.6) เกิดที่ จ.พิษณุโลก ก่อนโยกย้ายตามคุณพ่อซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจไปเรียนและเติบโตในพื้นที่ต่างๆ หลายจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย
ด้วยความที่มีคุณพ่อเป็นตำรวจ พี่น้องรวมทั้งสิ้น 9 คนของครูต๊อด ต่างก็เคยติดตามคุณพ่อไปชันสูตรพลิกศพคนร้ายตามจุดเกิดเหตุอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่ยังเล็กๆ ที่สำคัญคุณพ่อยังให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองจึงเพียรสอนให้ลูกๆ ทั้ง 9 คนรู้จักการใช้อาวุธปืนตั้งแต่วัยกระเตาะด้วยเช่นกัน
กระทั่ง พ.ศ.2525 ทางโรงเรียนนายร้อยสามพราน เปิดรับพลตำรวจประจำการในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ถ่ายทำเทป โทรทัศน์และภาพนิ่ง กก.2 บก.รร.นรต. ครูต๊อด จึงมีโอกาสได้สมัครเข้าไปรับใช้ชาติสวมเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เจริญรอยตามคุณพ่อ
ครูต๊อด เล่าให้ฟังว่า “ตอนอยู่โรงเรียนนายร้อยสามพรานได้ใช้วิชายิงปืนที่คุณพ่อเคยสอนมาตั้งแต่ยังเล็กๆ เพื่อประโยชน์ต่อตัวเองและส่วนรวมจนผู้บังคับบัญชาเห็นแวว
กระทั่ง ปี พ.ศ.2527 ถูกแต่งตั้งให้เป็นครูฝึกภาควิชาทหารและการฝึก กก.2 บก.รร.นรต. ทำหน้าที่ครูผู้ฝึกสอนยุทธวิธีตำรวจในเมืองและครูสอนยิงปืนให้กับ นรต.ตั้งแต่รุ่น 40 – 44”
ดีกรีความแม่นยำไม่ต้องพูดถึงมีทั้งคุณวุฒิ เหรียญทองและทองพิเศษ ปืนยาว ปืนสั้น และระบบต่อสู้ของกรมตำรวจ เป็นนักกีฬายิงปืนของ บช.น. และ บก.น.ธน จนได้แชมป์การแข่งขันยิงปืนประจำปี กรมตำรวจ ระบบ NRA.ระดับกองบังคับการ 4 สมัยติดต่อกัน
ทำหน้าที่ครูฝึกยิงปืนอยู่นาน 5 ปี พ.ศ.2531 “ครูต๊อด” อยากลองทำงานในพื้นที่จึงขอโยกออกจากโรงเรียนนายร้อยสามพราน ไปเป็น ผบ.หมู่ (จร.) สน.บุปผาราม โบกรถอำนวยจราจรไม่ถึงปี คิดว่าไม่ใช่ทางถนัดเลยขอไปเป็นสายตรวจ จังหวะเดียวกับที่ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อธิบดีกรมตำรวจสมัยนั้นแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจปราบปรามมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพล ของ ตร.
สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนู หอมหวล เป็นหัวหน้าชุด ทำการรวบรวมตำรวจมือพระกาฬจากทุกกองบังคับการ เหนือ ใต้ และธนบุรี เป็นทีมเฉพาะกิจลุยงาน ซึ่ง “ครูต๊อด” ก็ได้เข้าไปอยู่ในสังกัดชุดเฉพาะกิจฝั่งธนบุรี มี พล.ต.ต.รังสิต ญาโณทัย อดีต ผบก.น.ธนฯ เป็นผู้ควบคุมสั่งการ โชว์งานส่งเดนคุกเข้าตะรางและกลับไปเฝ้ายมบาลแบบนับไม่ถ้วน
กระทั่ง พ.ศ.2542 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ ผกก.สส.บก.น.8 (ในขณะนั้น) มาดำรงตำแหน่ง จึงดึงไปทำงานสืบสวนในตำแหน่ง ผบ.หมู่ (สส.) กก.สส.บก.น.8 นับแต่นั้นก็ได้ทำงานในชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด คดีน่าสนใจ และคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญของผู้บังคับบัญชาอีกหลายท่าน
จน พ.ศ.2549 สมัครใจลงไปปฏิบัติงานสืบสวนคดีสำคัญในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมกับ พ.ต.อ.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รอง ผบก.น.8 (ในขณะนั้น) ก่อนหวนกลับมานครบาลทำงานที่ กก.สส.บก.น.8 ได้ติดยศ ร้อยตำรวจตรี นายร้อยเลื่อนไหลรุ่นที่ 5 เป็นรองสารวัตรและครูฝึกชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีดำ
“ฉายาแหลม ประเทศไทย ได้มาเพราะใครๆ เห็นว่า ผมมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นอยู่ตำรวจทั่วประเทศ ในช่วงชีวิตราชการที่ผ่านมาหลังโยกย้ายออกจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ก็ยังถูกเชิญกลับไปเป็นครูฝึกสอนยิงปืนให้นักเรียนนายร้อยตำรวจ อีกหลายรุ่น ส่วนประสบการณ์เฉียดตายผมไม่เคยนับครั้ง ผ่านคดีวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายยาเสพติด มือปืนรับจ้าง แก๊งลักรถ และโจรใต้มาเกิน 100 ศพ”
ครูต๊อด บอกด้วยว่า เคยเห็นเพื่อนข้าราชการตำรวจบาดเจ็บ พิการ ล้มตายมามากรู้สึกสะเทือนใจ ผมก็เคยถูกคนร้ายยิงใส่ตอนเข้าล่อซื้อยาบ้า สมัยทำงานในชุดเฉพาะกิจของ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ แต่รอดมาได้เพราะไม่ลืมสวมเสื้อเกราะ จึงมักนำบทเรียนเรื่องนี้มาถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งเพื่อนตำรวจรุ่นหลังฟังอยู่เสมอ
การเป็นผู้ปฏิบัติงานทางยุทธวิธีนั้นสิ่งสำคัญคือ การฝึกฝน ดำรงตนในความไม่ประมาท และต้องประเมินศักยภาพของฝ่ายตรงข้ามให้สูงเข้าไว้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง
ส่วนชีวิตราชการที่เหลืออีก 4 ปี จะขอทำหน้าที่ครูต่อไป พอเกษียณอายุราชการแล้วก็จะกลับไปดูแลสนามยิงปืนมาตรฐานซึ่งทำเอาไว้ ที่ ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก เพราะรักการยิงปืนสุดหัวใจขอใช้กีฬายิงปืนเป็นสิ่งช่วยผ่อนคลายในช่วงบั้นปลายของชีวิต.
///////////////////////////////////
Green Bear 1/3/61