วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2563 เวลา 09.30น.
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ท.ชินภัทรสารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผบช.ปส.
พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ผบก.ปส.1
พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 บช.ปส. พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคลผบก.ปส.3 บช.ปส.
พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4 บช.ปส. พล.ต.ต.บัณฑิต ทิศาภาค ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ ทองยิ้ม ผบก.อก.บช.ปส. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถผบก.ขส.บช.ปส. พล.ต.ต.หญิงวนิดา หาญบุญเศรษฐ ผบก.ประจำ บช.ปส.พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบก.ปส.3
ร่วมกันเปิด“ยุทธการ ทลายขุมทรัพย์จับแก๊งยานรก”สยบไพรี 63/16
1. จับกุมบุคคลตามหมายจับตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ พ.ศ.2534 จำนวน 4 ราย
1.1 นายสว่าง อายุ 55 ปี ชาว จว.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 349/2563 ลง 31 ก.ค.2563
1.2 นางสาววันเพ็ญ อายุ 33 ปี ชาวจว.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 350/2563 ลง 31 ก.ค.2563
1.3 นายเฉลิมพล อายุ 34 ปีชาว จว.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 351/2563 ลง 31 ก.ค.2563
1.4 นายบรรลือ อายุ 28 ปีชาว จว.ประจวบคีรีขันธ์ ตามหมายจับศาลอาญาที่352/2563 ลง 31 ก.ค.2563
1.5นายเผด็จ อายุ 45 ปีชาว อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ตามหมายจับศาลจังหวัดเทิง ที่ 66/2562 ลง 12 ส.ค.2562
2. ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการ ฯ พ.ศ.2534
2.1 บ้านพร้อมที่ดิน 24 หลัง
2.2 โฉนดที่ดิน 12 ฉบับ
2.3 อาคารพาณิชย์ 5 คูหา
2.4 รถยนต์ 22 คัน
2.5 รถจักรยานยนต์ 27 คัน
2.6 บัญชีเงินฝาก 52 บัญชี
2.7 บัตรกดเงินสด 5 ใบ
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาท
สำหรับที่มาของปฏิบัติการครั้งนี้ แม้จะมีการปราบปรามอย่างเข้มแข็ง แต่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดก็พัฒนาวิธีการต่างๆ ลอบค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จุดกำเนิดยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงมีการพัฒนาการอยู่เสมอ
ทั้งเส้นทางการลักลอบลำเลียง วิธีการผลิต ตลอดจน การฟอกเงินเพื่อหมุนเวียนกลับไปสู่มือกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด
โดยใช้ช่องทางนำเข้าทางด้านจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอนเป็นหลัก
ปัจจุบันรูปแบบการลำเลียง มีวิธีการซุกซ่อนในรถบรรทุกสินค้าทางการเกษตร พาหนะส่วนบุคคล
ตลอดจนขนส่งมวลชน และได้พัฒนาใช้เทคโนโลยีติดต่อทางโซเซียลมีเดียถึงกันโดยตรง จากผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้ลำเลียง โดยไม่ต้องผ่านตัวแทนหรือคนกลางในพื้นที่เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งผ่านไปยังประเทศที่สาม
ชนชาวเขาและชนกลุ่มน้อยตามพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือติดกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากนอกประเทศผ่านพื้นที่ตามแนวชายแดน นำส่งเครือข่ายในพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร หรือปริมณฑล ก่อนลำเลียงไปยังภาคใต้ และส่งต่อประเทศที่ 3
กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดได้สืบสวนติดตามกลุ่มนักค้ายาเสพติดชาวเขาเผ่าม้ง ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเกี่ยวดองในลักษณะเครือญาติ
กลุ่มเครือข่ายนี้มีศักยภาพในการติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดจากโรงงานผลิตในสาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา จัดหา ประสาน สั่งการลำเลียงยาเสพติด นำส่งเครือข่าย ซึ่งเป็นกลุ่มเครือญาติในพื้นที่ตอนใน
แบ่งการลำเลียงออกเป็นระยะ คือ จากพื้นที่ชายแดน –พื้นที่ ภาคกลาง– พื้นที่ภาคใต้ อีกทั้งยังมีการแบ่งหน้าที่ให้เครือญาติ และลูกหลาน
ดำเนินการอย่างชัดเจน ครอบคลุม 3 พื้นที่ 3 ภาค ได้แก่ พื้นที่ต้นทางในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งใกล้แหล่งผลิตและพื้นที่นำเข้า สะดวก ในการจัดหาเครือข่ายผู้ลำเลียงชาวเขาในพื้นที่เดียวกัน
พื้นที่กลางทาง ในพื้นที่ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ใหม่ที่ใช้เป็นบ้านพัก สะดวกในการติดต่อเดินทางระหว่าง 2 พื้นที่ และอยู่ไม่ห่างจากจุดรับมอบยาเสพติดระหว่างกลุ่มผู้ลำเลียงทั้ง 2 ระยะ เพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ต่อไป
พื้นที่ปลายทาง ใช้เป็นแหล่งฟอกเงินและเป็นจุดกระแสเงินต้นทางในการโอนเงินค่ายาเสพติดและค่าจ้างลำเลียง โดยใช้ธุรกิจค้าเสื้อผ้าและร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกชาวเขา บังหน้า โดยไม่ได้ต้องการหวังผลกำไรเป็นหลัก
กลุ่มเครือข่ายนี้ใช้กระบวนการฟอกเงินโดยให้เครือญาติ ลูกหลาน เปิดบัญชีธนาคารและทำธุรกรรมทางการเงิน รวมทั้งแปรสภาพเงินดังกล่าวไปเป็นอสังหาริมทรัพย์และโอนกรรมสิทธิ์ให้เป็น ผู้ถือครองทั้งที่บุคคลเหล่านั้นมีการประกอบสัมมาชีพ ที่ไม่สอดคล้องกับรายได้และทรัพย์สิน
ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการตรวจสอบ และทำให้เกิดความซับซ้อนในการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ