Thursday, June 19, 2025
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันปอท.ทลายแก๊งตุ๋นเปิดเพจต้มคนรักนาฬิกาวินเทจ

    ปอท.ทลายแก๊งตุ๋นเปิดเพจต้มคนรักนาฬิกาวินเทจ

    ตำรวจปอท.แถลงผลทลายขบวนการสร้างเพจ “Vintage Watch” หลอกเหยื่อประมูลนาฬิกายี่ห้อหรู ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท พบ 1 เดือนหลอกลวงเหยื่อ 2 ล้านบาท

    เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 มิ.ย. 68 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)

    พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.  พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. แถลงผลจับกุมขบวนการสร้างเพจหลอกประมูลนาฬิกายี่ห้อหรู “Vintage Watch” 7 ราย

    ประกอบด้วย นายนิธิภัทร์ ผลเจริญ อายุ 41 ปี, น.ส.แอน อายุ 39 ปี , นายภานุมาส อายุ 27 ปี , น.ส.ธัญชนก อายุ 52 ปี และ น.ส.ฝ้าย อายุ 37 ปี นายลิน วิน ตัน (LIN WIN TUN) อายุ 34 ปี ชาวเมียนมา ,นายคำแก้ว อายุ 47 ปี บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน

    ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่” จับได้ในพื้นที่ จ.ระยอง, จ.จันทบุรี และ จ.เชียงราย

    พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า  ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายพบโพสต์โฆษณาบนเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “Vintage watch” เปิดประมูลนาฬิกาข้อมือวินเทจ มียอดไลค์มากกว่า 2 พันไลค์ อีกทั้งยังมีบุคคลอื่นเข้าร่วมประมูลอีกเป็นจำนวนมาก ทราบภายหลังว่าเป็นกลุ่มหน้าม้า

    ผู้เสียหายเกิดสนใจร่วมประมูล ใส่ราคาไว้ใต้คอมเมนต์ของโพสต์ ต่อมาได้มีแอดมินของเพจทักเข้ามาในกล่องข้อความแจ้งว่าผู้เสียหายชนะการประมูลนาฬิกาในราคา 5,500 บาท  มีค่าจัดส่ง 100 บาท รวมเป็นเงิน 5,600 บาท

    พล.ต.ต.อธิป กล่าวต่อว่า จากนั้นคนร้ายยังให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าประกันสินค้าอีก 2,000 บาท จะได้รับเงินคืนหลังจากทำประกันเสร็จแล้ว ผู้เสียหายโอนเงินไปเพิ่มให้อีก ต่อมายังแจ้งให้โอนเงินเพิ่มอีก 1,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมการโอนเงินประกันคืนทั้ง ๆ ที่สินค้ายังไม่ส่งมา ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท.

    พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะขบวนการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 7 รายไว้ แบ่งเป็นกลุ่มบัญชีม้า 2 ราย, กลุ่มจัดหาบัญชีม้า   2 ราย, กลุ่มพนักงานคอลเซ็นเตอร์และฟอกเงิน   3 ราย ก่อนกระจายกำลังเข้าจับกุมได้ทั้งหมด

    พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินต่างๆ ประกอบด้วย สมุดบัญชีธนาคาร,บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 13 รายการ, โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง, ซิมการ์ด 18 อัน, พระเครื่อง 6 องค์, เงินสดจำนวน 600,000 บาท, เครื่องนับเงิน 1 เครื่อง, โฉนดที่ดิน 2 ฉบับ มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

    พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนขยายผลจากผู้ต้องหาที่จับกุมได้ ทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการกระทำที่เป็นขบวนการ ผู้ต้องหาบางรายมีหน้าที่จัดหาบัญชีม้า ว่าจ้างบุคคลทั่วไปให้เปิดบัญชีธนาคาร พร้อมลงแอปพลิเคชันของธนาคารในโทรศัพท์มือถือ แล้วส่งต่อไปยังบ้านเช่าในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

    จากนั้นโทรศัพท์เหล่านี้จะถูกส่งข้ามแดนไปยังออฟฟิศของแก๊งคอลฯ ในพื้นที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อให้กลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นพนักงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้รับโอนเงินจากเหยื่อที่ถูกหลอกลวง และใช้ในการฟอกเงิน ตามคำสั่งของนายทุนชาวจีนเจ้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

    ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจากระบบแจ้งความออนไลน์พบว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 16 คดี  มีพฤติการณ์หลอกลวงขายสินค้าหลายประเภทผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เพจขายทุเรียน, ยางรถยนต์, โทรศัพท์, เครื่องตัดหญ้า และปลาอินทรีย์ อีกทั้งตรวจพบยอดเงินหมุนเวียนในคดีนี้มากกว่า 2 ล้านบาท ในระยะเวลา 1 เดือน

    สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่ง กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดีพร้อมขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments