CIB ร่วม HSI รวบโปรเเกรมเมอร์ ชาวเยอรมัน วัยเกษียณ ขายสื่อลามกเด็กบนดาร์กเว็บ มีลูกค้าเป็นสมาชิกกว่า 1 หมื่นราย คาดมีรายได้จากการขายสื่อลามกอนาจาร ประมาณ 100,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,500,000 บาท
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มีนาคม 68 ที่ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 กองบังคับการกองปราบปราม(บก.ป.)
พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.,พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท., พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก. ปอท.,ร.ต.อ.จิรายุ วงศ์วิวัฒน์ รอง สว.กก.2 บก.ปอท. พร้อมด้วย นาย แอนรอน มาเซลัส ผู้ช่วยทูตสำนักงานการสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา(HSI)
ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายสเตฟเฟน ( Mr. Steffen )อายุ 54 ปี โปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน หลังสืบสวนพบเบาะแสเป็นตัวการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารเด็กบนดาร์กเว็บ
ร.ต.อ.จิรายุ กล่าวว่าเมื่อเดือนธันวาคม 2567 บก.ปอท. ได้รับการประสานมาจากสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) ให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เนื่องจาก HSI ตรวจพบเว็บไซต์ที่มีพฤติกรรมจำหน่ายสื่อแสดงการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก (CSAM) และพบว่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุอาศัยอยู่ในประเทศไทย
กก.2 บก.ปอท.ได้สืบสวนจนสามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดคือ MR.STEFFEN หรือ นายสเตฟเฟน พบว่ามีการเปิดดาร์กเว็บ (Dark web) มาประมาณ 3 ปี หลังช่วงโควิค 19 เพื่อจำหน่ายสื่อลามกอนาจาร มีทั้งคลิปแอบถ่าย,คลิปวาบหวิว,คลิปหลุด, คลิปการช่วยตัวเอง และคลิปการมีเพศสัมพันธ์ เรวจมื่อตสอบอย่างละเอียดพบว่าบุคคลที่ปรากฎอยู่ในสื่อลามกอนาจารส่วนใหญ่เป็นเด็ก
จากการตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว พบว่า หากจะเข้าใช้บริการ จะต้องมีการสมัครสมาชิก จากนั้นต้องโอนเงินดิจิทัลสกุล Bitcoin หรือ Monero ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้กระทำความผิดก่อนจึงจะได้เป็นสมาชิก และจะได้รับเครดิตเท่ากับจำนวนเหรียญที่โอนไป
หลังจากได้เครดิตแล้วสมาชิกจึงเข้าดูคลิปวิดีโอไในด้เว็บไซต์แจะละถูกหักเครดิตตามราคาของแต่ละวิดีโอ และสมาชิกยังสามารถดาวน์โหลดคลิปลามกอนาจารมาเก็บไว้ได้อีกด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินดิจิทัล พบว่าผู้กระทำความผิดมีการยักย้ายถ่ายเทเงินไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายกระเป๋า แลกเปลี่ยนเหรียญสกลุเงินดิจิทัลต่างๆ ก่อนจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทโอนเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปอท. จึงสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. และ บก.ปอศ. จับกุมMR.STEFFEN หรือ นายสเตฟเฟนได้ที่คอนโดในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์แม่ข่าย, โทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์บันทึกข้อมูล, บัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, ซิมการ์ด และสิ่งของอื่นๆ รวม 36 รายการ
แจ้งข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น, เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลาย โดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก,
ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก”
สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้เป็นโปรแกรมเมอร์อิสระอยู่ที่ประเทศเยอรมันรับจ้างเขียนโปรแกรมต่างๆ จนเกษียณจึงเข้ามาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย ใช้ความรู้ด้านโปรแกรมเมอร์มาสร้างเว็บไซต์จำหน่ายสื่อลามกอนาจาร เป็นผู้ดูแลจัดการดาร์กเว็บ 2 เว็บไซต์ มีวิดีโอลามกอนาจารกว่า 5,000 คลิป โดยส่วนใหญ่เป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก มีลูกค้าเป็นสมาชิกกว่า 10,000 ราย
แต่ละรายจะต้องมีการชำระเงินขั้นต่ำในการเข้าชม 10 ดอลลาร์ หลังจากที่ผู้ต้องหาได้รับเหรียญดิจิทัลสกุล Bitcoin จากลูกค้าแล้ว จะยักย้ายถ่ายเทไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ และแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลเป็นเหรียญสกุลต่างๆ ก่อนจะนำเหรียญดิจิทัลมาขายเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศไทย
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่คาดว่ามีรายได้จากการขายสื่อลามกอนาจาร ประมาณ 100,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,500,000 บาท
นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การอีกว่าในการสร้างเว็บไซต์ดังกล่าว ได้ใช้โปรแกรม Tor control panel เป็นโปรแกรมสำหรับจัดการเว็บไซต์ในเครือข่าย tor เช่น การเชื่อมต่อเครือข่าย, การเผยแพร่ข้อมูลบนเครือข่าย และโปรแกรม WampServer โปรแกรมสำหรับสำหรับจัดการเว็บเซิร์ฟเวอร์ และฐานข้อมูล ประกอบกับความรู้จากการเป็นโปรแกรมเมอร์มาใช้ในการสร้างเว็บไซต์
ทั้งนี้จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์บันทึกข้อมูลของผู้ต้องหาเพิ่มเติม พบสื่อลามกอนาจารต่างๆ ในรูปแบบวิดีโอ และภาพนิ่งมากกว่า 140,000 ไฟล์ อีกทั้งยังพบว่า ผู้ต้องหาได้มีการขายโปรแกรม Spyware ผ่านดาร์กเว็บ
โดย Spyware ดังกล่าวสามารถดักเก็บข้อมูลการใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์, การรับสาย-โทรออก, ข้อมูลการพิมพ์, การแจ้งเตือนต่างๆ, ติดตามตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ รวมทั้งสามารถเข้าถึงข้อมูลรูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ต่างๆ ภายในอุปกรณ์ได้ มีการขายเป็นรายเดือน เดือนละ 16.95 ดอลลาร์หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 572 บาท
พ.ต.ท.นิธิ กล่าวดัวยว่า ในส่วนของผู้กระทำความผิดที่มีการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารทางออนไลน์ รวมไปถึงผู้ที่เก็บ หรือส่งต่อสือลามกอนาจาร ถือเป็นการกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
หากประชาชนท่านใดพบเห็นการกระทำในลักษณะจำหน่ายหรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร หรือการกระทำที่มีลักษณะเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็ก สามารถแจ้งเบาะแสเข้ามาได้ที่เพจตำรวจสอบสวนกลางได้ทันที