รวบสองสาวแสบอ้างตัวเป็นเลขาหนุ่ม-กรรชัย ทีมงานโหนกระแส ตุ๋นเงินเหยื่ออ้างพาออกรายการ
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.66 พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. สั่งการ พ.ต.อ.ปัถย์ภวิศ วงษ์พินิจ ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท.พ.ต.ท.เอกพล แสงอรุณ รองผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. นำกำลังจับกุม น.ส.พัชญ์ธนัน อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3838/2566 ลงวันที่ 4 พ.ย. 2566 กับ น.ส.สุวรรณณา ฯ อายุ 38 ปี
ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3839/2566 ลงวันที่ 4 พ.ย.2566 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันทุจริต หรือหลอกลวง โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลร์อันเป็นเท็จ” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต 13 ใบ สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 18 เล่ม สำเนาสมุดบัญชี 1 เล่ม SIM โทรศัพท์ 1 อัน
จับกุม น.ส.พัชญ์ธนัน ได้ที่ คอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอย ปณุณวิถี 16 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ส่วน น.ส.สุวรรณณา จับกุมได้ที่ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอย ลาดพร้าว 87 แยก 2 ถ.นนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
เนื่องจากผู้ต้องหากลุ่มนี้มีพฤติกรรมเข้าไปแฝงตัวตามกระทู้รับร้องเรียนในเว็บไซต์พันทิป หรือตามเพจเฟซบุ๊กต่างๆ จากนั้นจะทำทีเข้าไปติดต่อเหยื่อที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องราวต่างๆ อ้างตัวว่าเป็นทีมงานรายการโหนกระแส หรือ เป็นเลขาของ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง
อ้างสามารถช่วยเหลือ พาออกรายการ หรือ ประสานตำรวจให้ช่วยติดตามคดีได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการต่างๆ 35,000 บาท โอนเงินเข้ามายังบัญชีธนาคารของ น.ส.สุวรรณณา เมื่อมีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ ก็จะตัดขาดการติดต่อแล้วเชิดเงินหนีหายไป ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก เข้าแจ้งความไว้ที่ กก.2 บก.ปอท. จนมีการออกหมายจับ และนำมาสู่การตามจับกุมทั้ง 2 รายได้ดังกล่าว
สอบสวน น.ส.พัชญ์ธนันรับสารภาพ แต่ในส่วนของ น.ส.สุวรรณณา ให้การภาคเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเงินเหยื่อ แต่ยอมรับว่า เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารจริง เนื่องจาก น.ส.พัชญ์ธนัน ขอยืมไปใช้โดยบอกเพียงว่าจะนำไปใช้รับโอนเงินเพื่อเลี่ยงภาษีธุรกิจคลินิกเสริมความงาม แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของ น.ส.สุวรรณณา พบเงินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด 353,273 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดจริงหรือไม่