ตำรวจ ปอศ. ลุยค้น 4 จังหวัด ทลายเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ จับหัวหน้าขบวนการพร้อมสมุน หลังพบเบาะแสปล่อยสินเชื่อธุรกิจรายย่อย เรียกเก็บดอกเบี้ยโหด พบเงินหมุนเวียนนับพันล้าน
วันที่ 28 มี.ค.66 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ ,พ.ต.ต.ฉัตรดนัย ทองคลอด สว.กก.5 บก.ปอศ.
นำเจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร พิจิตร,สมุทรปราการ,จันทบุรี กวาดล้างจับกุมขบวนการเงินกู้ออนไลน์เถื่อน 2 เครือข่าย ประกอบด้วย “Burin-credit (บุรินทร์ เครดิต)” และ Memoney-Credit สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
จับกุม นายทศพล อายุ 29 ปี นายศักดิ์รินทร์ อายุ 29 ปี นายยุทธนา อายุ 27 ปี และ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 21 ปี ข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกําหนด และร่วมกันข่มขู่หรือใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้”
พร้อมกับจับกุมกลุ่มพนักงานรับจ้างทวงหนี้ของเครือข่ายดังกล่าวอีก 7 ราย ในข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต”รวมถึงตรวจยึดของกลาง อาทิ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 13 เครื่อง โทรศัพท์ 38 เครื่อง ซิมการ์ดประมาณ 50 อัน เช็คค้ำประกันของลูกหนี้ 22 ใบ มูลค่ารวม 7,990,000 บาท รถ Mercedes Benz, BMW, TOYOTA, Hyundai ของลูกหนี้ อีก 4 คัน
พ.ต.อ.เมฆพิศาล กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2565 ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.)รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์นอกระบบ“Burin-credit”
มีพฤติการณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูง ซึ่งผู้กู้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือ ร้อยละ 547.5 ต่อปี จนกว่าจะมีเงินต้นมาชดใช้คืน หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง
พ.ต.อ.เมฆพิศาล กล่าวต่อว่า พฤติการณ์ของเครือข่ายดังกล่าวจะเปิด เว็บไซต์ขึ้นมาใช้ชื่อว่า www.burin-credit.com ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน กลุ่มเป้าหมายจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อไม่จําเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน
ในกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ กลุ่มคนร้ายจะไปสํารวจกิจการเพื่อประกอบการพิจารณา เมื่อสินเชื่ออนุมัติแล้วจะโอนเงินไปให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งเข้าบัญชีธนาคารของผู้กู้ ทั้งนี้จะหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรกไว้ก่อน หากผิดนัดชําระหนี้ จะโทรศัพท์ข่มขู่ ระรานผู้กู้ถึงที่บ้าน, ที่ทํางาน หรือ สถานประกอบการ เป็นการกระทําที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในบัญชีช่วงระยะเวลา 1 ปี กว่า 1,000 ล้านบาท เร่งแกะรอยและรวบรวมพยานหลักฐานจนพิสูจน์ทราบตัวบุคคลซึ่งเป็นตัวการหลักของขบวนการดังกล่าวได้4 คน คือ นายทศพล นายศักดิ์รินทร์ นายยุทธนา และ นายเกียรติศักดิ์ ก่อนที่ต่อมา นายศักดิ์รินทร์ จะแยกตัวไปเปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า Memoney-credit เพื่อปล่อยเงินกู้ออนไลน์ในลักษณะเดียวกัน
เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำมาสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดได้ สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดจริง แต่ยืนยันว่าไม่เคยข่มขู่ลูกหนี้ นำตัวพร้อมของกลางส่ง กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีต่อไป