กองปราบฯทลายแก๊งเต็นท์รถโคราช ปลอมเอกสาร ยื่นขอสินเชื่อธนาคารออกรถ ก่อนเชิดหนีไม่จ่ายค่างวด เสียหายกว่า 20 ล้าน เปิดปฏิบัติการตามรวบอดีตลูกจ้างรัฐ ตัวการสำคัญ พร้อมผู้เช่าซื้อ เกือบ 30 ราย
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 มิ.ย.67ที่ ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สุพจน์ น้อยสวรรค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. และ ตัวแทนจากธนาคารเกียรตินาคิน
แถลงผลการปฏิบัติการ “ทลายขบวนการเต็นท์รถ ปลอมเอกสารหลอกกู้ไฟแนนซ์รถยนต์” หลังร่วมกับบก.ปคม., บก.ทล. และชุดปราบปรามโจรกรรมรถ บช.ก. นำกำลังกว่า 240 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 26 จุด ทั่วประเทศ กวาดล้างจับกุมขบวนการปลอมเอกสารยื่นขอสินเชื่อซื้อรถ
จับกุม น.ส.ทิพย์นิดา หรือก้อย อายุ 41 ปี กับพวกรวม 29 คน ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม,ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม” จับกุม น.ส.ทิพย์นิดา ผู้ต้องหาตัวการสำคัญของขบวนการได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ม.10 ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมของกลางที่ตรวจยึด
ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ, สัญญาการเช่าซื้อ พร้อมสำเนาคู่มือ, รายการเดินบัญชีเช่าซื้อรถยนต์ เอกสารเกี่ยวกับรถหลายรายการ, แผ่นป้ายทะเบียน 80 ป้าย แผ่นป้ายทะเบียนปลอม 8 แผ่น ขณะเดียวกันยังได้ตรวจยึดรถยนต์ที่เขื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดอีก 24 คัน
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ธนาคารเกียรตินาคิน ได้ส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์ ว่า ถูกกลุ่มคนนำเอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อรถยนต์ จนหลงเชื่ออนุมัติสินเชื่อให้ไป ก่อนจะเบี้ยวค้างชำระค่างวดรถ สร้างความเสียหายเป็นเงินรวมกว่า 20 ล้านบาท จากการตรวจสอบเอกสารและรายละเอียดต่างๆพบว่ามีผู้ใช้เอกสารปลอมมายื่นขอสินเชื่อรวม 34 ราย
พ.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า หลังรับเรื่องพ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสร่วมกับ พ.ต.ท.หญิงกัญจิรา นรสาร สว.ฝอ.บก.ปปป.ปรก.กก.3 บก.ป.เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามโจรกรรมรถ บช.ก.
ก่อนพบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการมี น.ส.ทิพย์นิดา อดีตพนักงานลูกจ้างชั่วคราวการเงินและงบประมาณของหน่วยงานราชการ ในจังหวัดนครราชสีมา ที่ปัจจุบันผันตัวมาประกอบอาชีพค้าขายรถยนต์มือสอง อยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นตัวการสำคัญ ได้ร่วมกับผู้ที่ต้องการจะเช่าซื้อรถ ทำเอกสารปลอม
อาทิ หนังสือรับรองทำงานราชการ หนังสือรับรองเงินเดือน และรายการเดินบัญชีธนาคาร ให้สอดคล้องกับรายการรับเงินเดือนของผู้เช่าซื้อ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าผู้เช่าซื้อมีคุณลักษณะตรงตามหลักเกณฑ์ มีอาชีพหลักจริงและรายได้เพียงพอที่จะสามารถผ่อนชำระค่างวดให้กับธนาคารได้ ก่อนนำเอกสารที่ทำปลอมขึ้นมาดังกล่าวไปยื่นขอสินเชื่อต่อธนาคาร
พ.ต.ต.อาธิรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบไปยังหน่วยงานราชการที่ออกหนังสือรับรอง พบว่าเป็นเอกสารที่ทำปลอมขึ้นมาทั้งหมด และยังพบว่าผู้เช่าซื้อทั้งหมดไม่ใช่เจ้าหน้าที่ราชการแต่อย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่าน.ส. ทิพย์นิดา ได้ให้เพื่อนที่ยังทำงานอยู่ในหน่วยงานราชการ คอยรับสายโทรศัพท์จากธนาคาร เพื่อรับรองสถานะของผู้เช่าซื้อว่าเป็นพนักงานราชการจริง ทำให้น่าเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นในขบวนการนี้อีกด้วย
ทั้งนี้มีผู้เช่าซื้อบางรายหลังจากได้รถไปแล้ว กลับไม่ยอมชำระค่างวดรถ มีการเปลี่ยนป้ายทะเบียน หลบหลีกไฟแนนซ์ หรือบางรายได้ขายรถที่เช่าซื้อไปแล้ว จนสร้างความเสียหายให้กับธนาคารเป็นอย่างมาก
“จากการตรวจสอบรายชื่อกลุ่มผู้เช่าซื้อ ในช่วงระยะเวลา 5 เดือน พบความผิดปกติว่า ผู้เช่าซื้อมีที่ทำงานเดียวกัน สามารถออกรถได้ถึง 34 คัน บางรายเปิดบัญชีธนาคารมาไม่ถึงเดือน แต่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 37 คน รวม 67 หมายจับ จับผู้ต้องหาได้ 29 คน ท้้งนี้เฉพาะตัวของ น.ส. ทิพย์นิดา นั้นถูกออกหมายจับต่างกรรมต่างวาระถึง 31 หมายจับด้วยกัน ” พ.ต.ต.อาธิรัตน์ กล่าว
จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นผู้เช่าซื้อ บางส่วนให้การยอมรับว่า น.ส.ทิพย์นิดา เป็นผู้ดำเนินการเอกสารให้ทั้งหมด อีกทั้งบางรายยังยอมรับว่า รู้ว่าเอกสารที่ น.ส.ทิพย์นิดา ทำขึ้นเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด แต่เพราะอยากได้รถจึงจำยอม ส่วนผู้เช่าซื้ออีกกลุ่มหนึ่ง ยืนกรานปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอม รับเพียงแค่ว่ามีหน้าที่ลงลายมือชื่อตามคำบอกของ น.ส.ทิพย์นิดา เพียงเท่านั้น
ขณะที่ในส่วนของ น.ส.ทิพย์นิดา ผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ ให้การปฏิเสธ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
