เช้าวันที่ 27 ต.ค. ที่ บก.ป. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ. วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.วาทิต จิตรจันทึก สว.กก.6 บก.ป.
นำกำลังจับกุมนายสุขธรรม หรือ “เฮียกุ่ย รัชดา” อายุ 70 ปี นายธรรมยุทธ์ หรือยอด หรือ อาจารย์ยอด เจ้าของศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน อายุ 60 ปี นายไตรเทพ อายุ 48 ปี
ในข้อหา ปลอมเอกสารขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจดหมายเหตุที่แท้จริง
ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายธรรมยุทธ์ หรือยอด ได้จัดสร้างศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ที่ จ.สงขลา เพื่อจัดแสดงโชว์สมบัติมีค่าและวัตถุโบราณ
ประกอบด้วย พระสมเด็จพุฒาจารย์โต กว่า 5 แสนองค์ แม่พิมพ์ผลิตพระสมเด็จพุฒาจารย์โต 3-4 หมื่นพิมพ์ รวมถึงบล็อกทองคำต่างๆ
อ้างเป็นของหลวงวิจารณ์เจียรนัย บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ กล่าวขานว่าเป็นช่างหลวงในราชสำนักผู้แกะพิมพ์พระสมเด็จ ถวายสมเด็จพุฒาจารย์โต
รวมถึงยังมีการนำวัตถุโบราณ หยก หุ่น เสื้อผ้าโบราณและของมีค่าอื่นๆจากประเทศจีน
อ้างว่าอยู่ในสมัยราชวงศ์ชิง ซูสีไทเฮา และ “ปูยี” จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนแผ่นดินใหญ่ มาจัดแสดงโชว์ร่วมอีกด้วย
นายธรรมยุทธ์ ยังอ้างอีกว่า พระสมเด็จและบล็อคแม่พิมพ์ต่างๆเป็นมรดกตกทอดจากหลวงวิจารณ์เจียรนัย
เพราะตนมีศักดิ์ เป็นเหลนรุ่นที่ 6 สิ่งของมีค่าที่ถูกเก็บไว้นานกว่า 144 ปี ได้ตกทอดมาถึงตนเอง
พร้อมทั้งนำภาพถ่ายโบราณของบุคคลทางประวัติศาสตร์ภาพหนึ่ง มีตราประทับรับรองจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ อ้างว่าเป็นภาพถ่ายของหลวงวิจารณ์เจียรนัย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ส่วนวัตถุโบราณสิ่งของมีค่าจากจีน เป็นสมบัติของแม่ตนที่ขนมาจากประเทศจีนก่อนเข้ามาอยู่ในไทย
ทั้งนี้ภายหลังศูนย์ดังกล่าวสามารถเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม นายธรรมยุทธ์ ได้ร่วมกับ เฮียกุ่ย เซียนพระขื่อดัง และ นายไตรเทพจัดทำคลิปวิดีโอ เผยแพร่เรื่องราวของศูนย์ ลงในยูทูปและสื่อสังคมออนไลน์ ต่างๆ
พร้อมประกาศแจกพระสมเด็จแท้ ให้กับประชาชนชนทั่วไปฟรี 2 แสนองค์
แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินค่ากรอบและสร้อยคอคล้องพระคนละ 1,000 บาท
โดยมีการนำใบตรวจอายุคาร์บอเนตตรวจสอบมวลสาร ของสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ ที่ทำปลอมขึ้นมาแสดงโชว์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีผู้หลงเชื่อเช่าพระนับหมื่นราย
เมื่อเจ้าหน้าที่นำใบรับรองและภาพถ่ายที่มีตราประทับจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ไปตรวจสอบพบว่าเป็นการปลอมแปลงขึ้นมาทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้กรมศิลปากร ได้มอบหมายให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติเข้าแจ้งความกับ กก.6 บก.ป. จนมีการออกหมายจับ และนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด
สอบสวนทั้งหมดให้การภาคเสธ โดยนายธรรมยุทธ์ อ้างว่า ไม่มีเจตนาหลอกลวงประชาชน เพราะไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นพระปลอม
เข่นเดียวกับภาพถ่ายต่างๆ เพราะเป็นมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ แต่ยืนยันว่าเป็นเหลนของหลวงวิจารณ์จริง นำตัวส่ง กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีต่อไป