กองปราบตามรวบผู้ต้องหาหมายแดงชาวเวียดนาม พร้อม 2 บอดี้การ์ด หลังตุ๋นเพื่อนร่วมชาติ กว่า 300 ล้านหรียญสหรัฐ หรือ 6 พันล้านบาท ก่อนหลบหนีมาอยู่ในไทย
วันที่ 24 พ.ค.68 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป,สั่งการ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป พ.ต.ท.กิตติภพ ทองเพชร,พ.ต.ท.ศราวุธ ทองน้อย,พ.ต.ท.พัฒษพงศ์ เสณีแสนเสนา , พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. พ.ต.ต.วิชิต ศรีทอง สว.กก.3 บก.ป.
นำกำลังจับกุม นาง โง (NGO) อายุ 30 ปี ชาวเวียดนาม ตามหมายจับตำรวจสากล (INTERPOL) ที่ A2159/2- 2025 แนบท้ายหมายจับตำรวจนครบาลฮานอย ที่ 20647/QĐTN-CSHS ลงวันที่ 10 ธันวาคม 2567
ข้อหา “ไม่แจ้งความเกี่ยวกับการกระทำผิด”จับได้ที่คอนโด ภายในซอย ปรีดี พนมยงค์ 40 แขวงคลองตันเกนือ เขตวัฒนา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางการประเทศเวียดนามประสานขอความร่วมมายังทางการไทย ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการหลอกลวงร่วมลงทุนเทรดหุ้น หลอกลวงชาวเวียดนามให้ร่วมลงทุน ด้วยการเปิดเว็บไซต์โฆษณาเชิญชวนให้คนลงทะเบียนลงทุนเทรดหุ้นผ่านแพลตฟอร์มซื้อขาย Forex หรือ คริปโต มีผลตอบแทนสูงผิดปกติ เช่น 20%-30% ต่อเดือน โดยให้โอนเงินเข้ามาในบัญชีผ่านทางช่องทางที่กำหนด
ส่วนวิธีการโฆษณาเชิญชวนจะใช้ใช้บุคคลสาธารณะ-อินฟลูเอนเซอร์ชาวเวียดนาม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดความสนใจ มีการจัดการสัมนาเชิญชวนผู้คนเข้าร่วมฟังแผนการลงทุน อ้างว่าไม่มีความเสี่ยง มีการคืนทุนเร็ว
ถ้าสามารถหาคนมาเพิ่มได้ จะได้รับ “ค่าคอมมิชชัน” เพิ่มอีก เหมือนแชร์ลูกโซ่ เมื่อมีผู้หลงเชื่อจะดำเนินการผ่านธุรกรรมลักษณะเหมือนตลาดหุ้น มีรูปแบบหลอกลวงคือให้เหยื่อเทรดหุ้นด้วยเงินจำนวนน้อยก่อนถอนเงินได้จริงเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
จากนั้นค่อยๆ ชักชวนให้ลงทุนเพิ่มขึ้น โดยใช้โครงสร้างการปันผลกำไรแบบเกินจริงเข้าล่อใจเหยื่อ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและลงทุนเป็นเงินจำนวนมากขึ้น กลุ่มขบวนการดังกล่าวจะตัดขาดการติดต่อกับเหยื่อทันที
สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้มีชาวเวียดนามเสียหายกว่า 2,600 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 6 พันล้านบาทไทย
ทั้งนี้กลุ่มขบวนการดังกล่าวมีแกนนำชาวตุรกีร่วมกับแกนนำชาวเวียดนามอีก 35 คน มีลักษณะการกระทำความผิดในรูปแบบองค์กร มีการวางแผนแบ่งหน้าที่การทำอย่างชัดเจนมีเป้าหมายหลักเป็นคนเวียดนาม และตั้งที่ทำการศูนย์ปฏิบัติการในการหลอกลวงทั่วประเทศเวียดนาม 44 ศูนย์ปฏิบัติการ มีพนักงานกว่า 1,000 คน ทั่วทั้งในกรุงฮานอย โฮจิมินห์ซิตี้ ดานัง ฮอยอันและเมืองสำคัญอื่นๆ
นอกจากนี้ยังปฏิบัติการในต่างประเทศ เช่นในกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา อีกด้วย
จากนั้นตำรวจนครบาลเวียดนาม สืบสวนทราบว่า นางโง หนึ่งในกลุ่มขบวนการคนสำคัญ ที่ถูกออกหมายประกาศสืบจับ ปัจจุบันได้หลบหนีเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย ได้ประสานขอความร่วมมือมายังสถานทูตไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมดังกล่าว
ต่อมากก.3.บก.ป. ร่วมกับสตม.ให้สืบสวนติดตามจับกุมนางโง เพื่อส่งตัวให้ทางการเวียดนามนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะตามจับกุมได้ดังกล่าว
นอกจากนี้ยังจับกุมชายชาวเวียดนาม อีก 2 ราย ข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดย การอนุญาตสิ้นสุด จึงจับกุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดี
สอบสวนนางโง รับสารภาพว่า เข้ามาประเทศไทยตั้งแต่กลางปี 67 มาเช่าโรงแรมดัวกล่าวอยู่เดือนละ 9 หมื่นบาท รวมทั้งยังจ้างชายชาวเวียดนาม 2 คน ที่ถูกจับได้มาคอยเป็นบอดี้การ์ดคุ้มกัน
ส่วนคดีที่ถูกออกหมายจับยอมรับว่า เป็นผู้ร่วมก่อเหตุจริง ทรัพย์สินที่ได้จากการหลอกลวงดังกล่าว หัวหน้าขบวนการจะเป็นคนบริหาร ส่วนตนได้ผลประโยชน์เป็นส่วนแบ่ง โดยนำไปฟอกเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศเวียดนาม
ส่วนเงินที่ใช้จ่ายในประเทศไทย จะให้คนของตนโอนเงินจากบัญชีม้าที่ประเทศเวียดนามเข้ามายังบัญชีกลุ่มคนเวียดนามในประเทศไทยเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดไทย แล้วนำมามอบให้ตนครั้งละประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของทางการไทย
จากนั้น เจ้าหน้าที่กก.3.บก.ป.ได้นำตัวนางโง ส่งให้ บช.สตม.เพื่อเพิกถอนวีซ่า พร้อมคุมตัวเข้าห้องกัก ตม.รอทางการเวียดนามมาทำเรื่องรับตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศเวียดนาม ต่อไป