เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 ก.พ.66 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (กมค)ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ว่า
กรณีนี้เนื่องจากเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2559 กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำผ่านเข้ามาในราชอาณาจักร
ดังนั้น ผู้ที่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าจึงมีความผิดฐานรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงข้อกำจัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น ตามมาตรา 246 ประกอบมาตรา 244 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 มาตรา 4 วางหลัก ให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบ เนื่องจากเป็นการนำสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายโดยการสูบ ดังนั้น หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่ ก็จะมีความผิดฐาน สูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ ซึ่งมีระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ก็ขอฝากไว้ว่าเมื่อกฎหมายยังมีสภาพบังคับใช้อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังต้องบังคับตามกฎหมาย แต่หากสภาพสังคมหรือประชาชนเห็นว่าควรจะมีการปรับปรุงกฎหมายในอนาคต ก็เป็นเรื่องของฝ่ายนโยบายหรือทางสภาต่อไป
อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ประเทศปลายทางนั้น สิ่งใดสามารถนำเข้ามาในประเทศได้ หรือสิ่งใดนำเข้ามาในประเทศไม่ได้ เป็นการแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวทราบเพื่อป้องกันการกระทำความผิดในประเทศปลายทาง