ผบ.ตร.สั่งตำรวจภาค 2 เร่งรัดขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการหลอก 11 คนไทยไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านให้ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบเพจหางานผิดกฎหมาย คุมเข้มต่อเนื่องปราบปรามอาชญากรรมทุกมิติ สร้างความปลอดภัยให้ประเทศและภูมิภาค
วันที่ 14 ตุลาคม 2568 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า
กรณี สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รับแจ้งจากพลเมืองดี มีประชาชนขอความช่วยเหลือหลังถูกหลอกลวงว่าจะพาไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา และถูกกักขังอยู่ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังบูรพา เข้าช่วยเหลือ 11 คนไทย เป็นชาย 7 คน หญิง 4 คน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กำชับให้ตำรวจภูธรภาค 2 เร่งรัดสืบสวนขยายผล จับกุมผู้กระทำผิดและผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดโดยเด็ดขาด
พร้อมมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ตรวจสอบเพจหางานและช่องทางออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงแรงงานป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์และขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ
เหตุการณ์ดังกล่าว จากการสอบถามเบื้องต้นผู้เสียหายทั้งหมดให้การตรงกันว่า สมัครงานผ่านเพจหางานในสื่อสังคมออนไลน์ มีการโฆษณาชักชวนให้ไปทำงานในประเทศกัมพูชา ระบุรายได้เดือนละประมาณ 20,000 – 25,000 บาท
ด้วยความอยากมีงานทำจึงโทรติดต่อไปยังเบอร์ที่ปรากฏแล้วนัดหมายจุดนัดพบ โดยทั้งหมดเดินทางไปถึง อ.อรัญประเทศ ในช่วงบ่ายถึงค่ำ จากนั้นมีชายไทยไม่ทราบชื่อ ขับรถกระบะมารับจากจุดนัดหมายต่าง ๆ เช่น สถานีขนส่งผู้โดยสารอรัญประเทศ และสถานีรถไฟอรัญประเทศ ก่อนพามาพักรวมกันที่บ้านหลังดังกล่าว อ้างว่ารอเดินทางข้ามไปทำงานที่ฝั่งกัมพูชา
ในระหว่างรอได้มีผู้เสียหายคนหนึ่งเกิดความสงสัยว่าเมื่อไปถึงกัมพูชาแล้วจะได้ทำงานจริงหรือไม่ เกรงว่าจะถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมายคาดว่าจะถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงโทรศัพท์ติดต่อญาติให้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานทหารกองกำลังบูรพาเข้าช่วยเหลือได้ทัน ก่อนทั้งหมดจะถูกพาออกนอกพื้นที่ ส่วนเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวไหวตัวหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะถึงจุดเกิดเหตุ
เบื้องต้นได้สอบถามปากคำผู้เสียหายทั้งหมดไว้เป็นพยาน เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการสืบสวนและติดตามหาตัวผู้กระทำผิด รวมถึงผู้ร่วมขบวนการ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการสมัครงานผ่านเพจหรือช่องทางออนไลน์ที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน หรือมีข้อเสนอรายได้สูงเกินจริง เพราะอาจเป็นช่องทางที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ
หากประชาชนพบเห็นเพจรับสมัครงานที่มีพฤติการณ์น่าสงสัย หรือได้รับข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงแรงงาน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือ สายด่วน 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนของกฎหมาย
ยืนยันว่าจะดำเนินการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงแรงงานข้ามชาติอย่างจริงจัง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทุกคน
นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังได้กำชับให้คุมเข้มอย่างต่อเนื่องในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกลวงออนไลน์ ค้ามนุษย์ ในทุกมิติอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประเทศและภูมิภาค