“ ด้วยความมุ่งมั่น พยายามไม่หวั่น ต่อโอกาสสู่ความใฝ่ฝันในวัยเด็ก”
ร.ต.อ.หญิง วันวิสา ธีระปัญญาชัย รอง สว.กก.สสน.บก.ป. หรือ พี่ผึ้ง เด็กสายนาฏศิลป์สู่ตำรวจสาวนักบิดและเป็นหนึ่งในทีมจักรยานยนต์เกียรติยศ ของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล
หนทางชีวิตที่หลากหลายรส คงต้องบอกว่าเป็นตำรวจสาวอีกหนึ่งคนที่เรื่องราวชีวิตพลิกฝันหลายครั้งเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปสมัยเด็ก พี่ผึ้งเล่าว่า
ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรม ชอบการแข่งขัน ชอบการสะสมเกียรติบัตร ตั้งแต่เข้าประกวดสุทรพจน์ ร้อยแก้วร้อยกรอง อ่านทำนองเสนาะได้รับรางวัลที่ 4 ของประเทศไทย รับประทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และ
ด้วยความที่พี่ผึ้งอยู่ชมรมยุวศิลปินในมูลนิธิพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จว.สมุทรสงคราม ได้รับคัดเลือกให้ทำการแสดงหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อยู่หลายปี ตลอดการทำกิจกรรมชีวิตในวัยนั้นรู้สึกสนุกไปกับการพัฒาตัวเองอยู่เสมอ
จวบจนวัยทำงาน พี่ผึ้งเรียบจบได้ตัดสินใจทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งอยู่ถึง9 ปี ก่อนตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตในการเข้ารับราชการตำรวจ
พี่ผึ้งเล่าว่า
การได้เป็นตำรวจถือเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเด็กคนนึง ไม่เคยย่อท้อจนได้รับโอกาส การตัดสินใจที่หนักแน่นเลยเริ่มขึ้นสู่เส้นทางนี้
เมื่อมีโอกาสได้มารับราชการตำรวจ บรรจุครั้งแรกในตำแหน่ง รองสว.ฝอ1 บก.อก.สทส. เมื่อปี 2558 ด้วยความที่ทำงานอยู่ในรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มักจะเห็นตำรวจสันติบาล ขี่จักรยานยนต์อยู่บ่อยครั้ง พี่ผึ้งมีความชื่นชอบจักรยานยนต์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
จังหวะนั้นมีโอกาสได้พบผู้บังคับบัญชาของตำรวจสันติบาล ท่านมองเห็นถึงความสามารถและเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าร่วมการขี่ในทีมจักรยานยนต์เกียรติยศกับทางหน่วยสันติบาล งานแรกของพี่ผึ้งคืองานสวนสนามในวันตำรวจ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน
ความหลงใหลชื่นชอบไม่หยุดแค่สถานที่ทำงาน แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้พี่ผึ้งที่ชอบความท้าทายอยู่แล้ว เข้าร่วมกิจกรรม Ironman Rally เป็นการขี่รถมอเตอร์ไซค์ทางไกลตลอด 24 ชั่วโมง
ในปีแรกของการแข่งขัน เป็นการแข่งขันจากจังหวัดภูเก็ต สู่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนั้นมีผู้เข้าร่วม 80 คน และมีผู้หญิงเข้าร่วมเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น พี่ผึ้งยังได้เข้าร่วมการแข่งขันเรื่อยมาเป็นปีที่ 5 ของการแข่งขัน นั่นคือความหลงใหลในมอเตอร์ไซค์และความเร็วที่พี่ผึ้งได้บอกกับเรา
กระทั่งปี 2563 พี่ผึ้งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตำแหน่ง รอง สว.กก.สสน.บก.ป. ก้าวเข้าสู่เส้นทางสายปฏิบัติการ หนึ่งในภารกิจที่พี่ผึ้งมีความภาคภูมิใจ เป็นคดีที่มีชื่อเสียงและคนให้ความสนใจทั่วประเทศ นั่นก็คือ “คดี ผอ.กอล์ฟ” ปล้นทองลพบุรี”
พี่ผึ้งเล่าว่า ภารกิจนี้สำคัญมากด้วยเป็นคดีที่ท้าทาย เป็นที่สนใจของประชาชน มีความซับซ้อนภายใต้การวางแผนที่รัดกุม แต่ด้วยเพราะตัวเองไว้วางใจในทีมและเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของการทำงานตำรวจเลยทำให้คดีนี้ลุล่วงไปด้วยดี ไม่เกิดการสูญเสียในระหว่างจับกุม พิสูจน์ให้เห็นว่ายังมีตำรวจฝีมือดีคอยปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
พี่ผึ้งเป็นสาวอีกหนึ่งคนที่เราฟังเรื่องราวแล้วว้าวมากๆ ยิ่งช่วงท้ายๆ พี่ผึ้งบอกว่า ตัวเองเป็นคนโชคดีคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่อยู่เสมอ
ด้วยเพราะความพยายาม ความเชื่อมั่นในตนเอง ความไม่ย้อท่อ เลยสะท้อนผ่านศักยภาพที่พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ต้องยอมรับว่า ความขยัน ความเพียร ความเป็นสาวแกร่งของพี่ผึ้งน่าเอาตัวอย่างเป็นอย่างมาก
สุดท้ายนี้หวังว่าพี่ผึ้งจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักสู้ทุกคน ไม่มีคำว่าสายและเสียดายถ้าทุกๆวันเราได้ทำอย่างเต็มที่ !!
“ศุพิต พ.” บันทึก1/10/65