“จิรภพ”รับมอบตำแหน่งผู้การประเทศไทย ลั่นจะทำกองปราบให้เป็นที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่งอย่างแท้จริง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ต.ค. ที่ กองปราบปรามพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ปอศ.และอดีต ผบก.ป.ร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่ง ผบก.ป.และธงประจำหน่วยให้กับ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช
จากนั้นได้เดินตรวจแถวกองเกียรติยศ โดยมี รอง ผบก.ป. ผกก.1-6 ผกก.ฝอ.และ ผกก.สนับสนุน บก.ป. รวมทั้งกำลังตำรวจในสังกัด บก.ป. เข้าร่วมพิธีการโดยพร้อมเพรียงกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนมีพิธีการส่งมอบตำแหน่ง ผบก.ป. นั้น พ.ต.อ.จิรภพ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ บก.ป. ได้ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกองปราบปราม อาทิ พระพุทธพิทักษ์ธรรมนำชัย พระพุทธรูปประจำ บก.ป. ศาลสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระภูมิเจ้าที่ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเข้ารับตำแหน่ง
พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า ขอบคุณท่านผู้บังคับการ และข้าราชการตำรวจกองปราบปรามและผู้เกี่ยวข้องที่ได้จัดพิธีอย่างสมเกียรติ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีเต็มที่ตนได้เข้ารับตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม นับเป็นเกียรติและความภูมิใจต่อตัวเอง และครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพี่น้องตำรวจกองปราบปราม
จนทำให้ภารกิจต่างๆ สำเร็จลุล่วงด้วยดี
นอกจากนี้อยากขอแสดงความยินดีกับ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ที่เข้ามารับตำแหน่ง ถือเป็นคนหนุ่มที่มีความรู้ความสามารถมาถูกที่ถูกเวลา ตนมั่นใจว่ากองปราบปรามภายใต้การนำของ พ.ต.อ.จิรภพ สามารถดูแลพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนได้เป็นอย่างดี
ด้าน พ.ต.อ.จิรภพกล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาดำรงตำแหน่ง ผบก.ป.อันทรงเกียรติ ก่อนอื่นขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ ให้มาดำรงตำแหน่งนี้รวมถึงพี่น้องข้าราชการกองปราบทุกท่านตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันทำงานจนประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้รู้สึกผูกพันกับหน่วยงานนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเคยรับราชการที่นี่ในตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 1 ซึ่งได้นำความรู้ความสามารถมาทำงานที่นี่เป็นครั้งแรก ได้สืบสวนและจับกุมคดีน้อยใหญ่ทำให้มีประสบการณ์มีความรู้จวบจนทุกวันนี้
“ผมขอให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าธงประจำกองปราบและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าผมจะนำพากองปราบให้เป็นที่ยอมรับและที่ศรัทธาของประชาชนให้สมกับความว่าที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่งอย่างแท้จริง
รวมถึงจะดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ได้ทำงานที่นี่อย่างมีความสุขฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานและประชาชน” พ.ต.อ.จิรภพ กล่าว
สำหรับประวัติ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช หรือ “ผู้การก้อง” อายุ 42 ปี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 34 นักเรียนนายร้อยรุ่น 50 จบปริญญาโท คณะ MIS Management Information System (การบริหารข้อมูลสารสนเทศ) Central Michigan University สหรัฐอเมริกา จบปริญญาเอก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเทคโนโลยีและนวัตกรรม
เริ่มรับราชการตำแหน่งแรกเป็นรองสารวัตรฝ่ายปฏิบัติการ 3 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เป็น รองสารวัตร แผนก 2 กก. 1 บก.ป. ก่อนติดยศ พ.ต.ต. เป็นสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ขึ้นเป็น รอง ผกก.ท่องเที่ยวภูเก็ต และได้ขึ้นเป็น ผกก.ท่องเที่ยวภูเก็ต
ต่อมาได้ย้ายกลับถิ่นเก่ามาเป็น ผกก.1 บก.ป. เมื่อปี 2557 ขึ้นเป็น รอง ผบก.ป.เมื่อเดือน มิ.ย.2560 กระทั่งล่าสุดขึ้นเป็น ผบก.ป.หรือ”ผู้การประเทศไทย” คนที่ 36 ต่อจาก พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด
พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า จะพัฒนาหน่วยให้ทันสมัยมากขึ้นตามยุคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้กำลังจัดตั้ง หน่วยงานที่เรียกว่า Real Time Crime Center มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.กองกำกับการสนับสนุน เป็นผู้ควบคุม โดยหน่วยนี้จะรวบรวมข้อมูลของบุคคลเข้ามารวบรวมไว้เพื่อตรวจสอบสถานะบุคคลและหมายจับรวมทั้งประวัติการต้องโทษ
เพื่อให้หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนสามารถมาตรวจสอบข้อมูลบุคคลได้ ถือเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างรัฐกับเอกชน ซึ่งจะทำให้ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ง่ายขึ้น และเอกชนก็ได้ประโยชน์ที่จะตรวจสอบพนักงานของตนว่ามีหมายจับหรือไม่
