“สืบนครบาลรวบ วีณา จอมฉกทรัพย์”ประวัติลักทรัพย์ยาวหางว่าว
ตามนโยบายพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. เน้นอาชญากรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์ นักตระเวนลักทรัพย์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา
สืบนครบาลสืบสวนพบว่า”วีณา ฉายาจอมฉกทรัพย์” ประวัติยาวเป็นหางว่าว ก่อเหตุฉกเงินและทรัพย์สินมีค่าตามห้างสรรพสินค้าหรือที่มีคนพลุกพล่าน ใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายนอนโรมแรม สุดท้ายจนมุมถูกตามจับได้ขณะลงจากโรมแรมย่านลาดพร้าวจากการขยายผล ก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน เรียกได้ว่าก่อเหตุจน “เข้าเส้น”
วันที่ 28 ธ.ค. 67 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต. วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อดุลย์ ดองพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท. ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รองผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.
พ.ต.ท.ภัทร บุญอารักษ์สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท. นิทัสน์ มีทองสว.กก.สส.4.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ด.ต.วิฑูรย์ สร้อยละออง , จ.ส.ต.ปริญญาชูช่วย , และส.ต.อ.บวรลักษณ์ ภูมลา ผบ.หมู่กก.สส.4 บก.สส.บช.น.และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.
ร่วมกันจับกุมน.ส.วีณา หรือ รจนา อายุ 44 ปี ชอาว.พาน จ.เชียงรายตามหมายจับศาลอาญาที่6025/2567 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 67 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ” (สน.พญาไท)
จับได้ที่ ห้องล๊อบบี้ของโรมแรม วาบัว แอสโซเทล กรุงเทพ ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
ตรวจยึดทรัพย์สิน 2 รายการ คือเงินสด 46,538.50 บาท และหูฟัง BEOPLAY EQ – BLACKโดยยึดไว้ตรวจสอบเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในคดีอื่น
พบประวัติต้องโทษคดีอาญา 7 คดี ทั้งหมดเป็นคดีลักทรัพย์ คือ
1. วันที่ 24 มี.ค. 56 ข้อหา “ลักทรัพย์” ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
2. วันที่ 7 พ.ย. 56 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” ในพื้นที่ สน.ธรรมศาล กทม.
3. วันที่ 16 ก.ย. 60 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
4. วันที่ 9 พ.ย. 65 ข้อหา “ลักทรัพย์” ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ กทม.
5. วันที่ 24 ก.ย. 66 ข้อหา “ลักทรัพย์” ในพื้นที่ สน.ประเวศ กทม.
6. วันที่ 16 ก.ย. 67 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ” ในพื้นที่ สน.พญาไท กทม.
7. วันที่ 27 ก.ย. 67 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรีจากการขยายผล น.ส.วีณาฯ มีการก่อเหตุอีกจำนวนหลายครั้ง แต่ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันบุคคลหรือยืนยันผู้กระทำความผิดได้
พฤติการณ์กล่าวคือวีณาฯ ผู้มีประวัติโชกโชนด้านการฉกทรัพย์ก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ก่อเหตุจนเป็นสันดานในภาษานักสืบจะเรียกว่า “เข้าเส้น” สถานที่ชอบก่อเหตุนั้น จะเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ตามห้างสรรพสินค้าดังหลายแห่งในเมืองหลวง หรือสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเช่น เมืองพัทยา หรือจังหวัดใกล้เคียง เป้าหมายหลักเป็นเงินสดตามลิ้นชัก , กล้องถ่ายภาพมูลค่าหลักแสนบาท หรือกระเป๋าที่มีทรัพย์สินมีค่าอยู่ภายใน ฯลฯ
ครั้งที่ก่อเหตุในพื้นที่ สน.พญาไท วีณาฯได้ลงมือก่อเหตุฉกเงินในร้านขายเสื้อผ้า ภายในห้างดังย่านพญาไท โดยเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าทำทีเป็นลูกค้าเดินเลือกเสื้อผ้า เมื่อสบโอกาสจึงเดินไปที่โต๊ะเก็บเงิน เปิดลิ้นชักรีบหยิบเงินให้ได้มากที่สุด โดยจะเน้นเฉพาะธนบัตรใบละ1,000 บาท ซึ่งวีณาฯ หยิบเงินสดไปได้กว่า14,000 บาท
ล่าสุดที่ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยาวีณาฯ เดินไปเปิดลิ้นชักของบูทขายเสื้อผ้าภายในห้างดังย่านพัทยา โดยไม่สนใจพนักงานหรือลูกค้าที่กำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ จากนั้นหยิบเงินสดไปได้กว่า 80,000 บาท
ครั้งอื่นๆ ที่มีแผนประทุษกรรมเดิมๆ โดยวีณาฯ จะเดินหาเป้าหมายตามห้างสรรพสินค้ามักจะหยิบฉกเงินตามลิ้นชักของร้านขายของ หยิบกล้องถ่ายภาพ หรือกระเป๋าของมีค่า ที่วางอยู่ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ
ต่อมาผู้เสียหายรายหนึ่งขอความช่วยเหลือมาที่เพจ สืบนครบาล IDMB ผู้การจ๋อสั่งการให้ ชุดสืบสวนนครบาล วิเคราะห์แผนประทุษกรรมการก่อเหตุพบว่า มักจะก่อเหตุในพื้นที่สาธารณะ มีคนพลุกพล่าน และหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ประกอบกับมีประสบการณ์การก่อเหตุ รู้ช่องทางหลบหนีจึงทำให้ยากที่จะติดตามจับกุมตัวได้ เพราะวีณาฯเคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้งเมื่อได้ทรัพย์สินชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ติดตามจับกุมทันที
ชุดสืบสวนใช้เวลาแกะรอย จนได้เบาะแสว่า ผู้ต้องหาใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายจากการลักทรัพย์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยครั้งนี้ผู้ต้องหาเข้าพักที่โรมแรมหรูย่านลาดพร้าว จึงลงพื้นที่ติดตามจับกุม จนพบกับวีณาฯกำลังเช็กเอาต์ออกจากโรมแรม เมื่อวีณาฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเดินหลบหนี จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมทันที
ชั้นจับกุม ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เดิมเป็นคนเชียงราย แต่เมื่อยี่สิบปีที่แล้วได้ตัดสินใจมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ และจังหวัดชลบุรี เคยทำงานเป็นสาวโรงงาน เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระทั่งพบรักกับแฟนชาวต่างชาติ ซึ่งเขาเลี้ยงดูทุกอย่าง แต่เมื่อเขากลับไปต่างประเทศ ทำให้ไม่มีรายได้ ว่างงาน
ผู้ต้องหายอมรับว่า ประวัติคดีลักทรัพย์ทั้งหมดก่อนหน้านี้ ตนเป็นผู้ก่อเหตุจริง ที่ทำไป เพราะไม่มีเงินกินข้าว ถูกจับกุมครั้งแรกตั้งแต่ปี 2556 และติดคุกมาแล้ว 5 ครั้ง ครั้งล่าสุดโดนจับที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา แต่ชี้แจงว่าตามหมายจับของสน.พญาไท ตนไม่ได้ขโมย เป็นเรื่องเข้าใจผิด
สุดท้ายเรื่องเงินจำนวน 46,538.50 บาท ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของตน เป็นเงินที่ตนขยันทำงาน อดออม จากน้ำพักน้ำแรงค้าขายของ และทำงานให้ชาวต่างชาติ ไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการขโมยแต่อย่างใด ตั้งใจว่า หลังพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ จะนำเงินจำนวนนี้กลับไปตั้งตัวอยู่กับแม่ที่เชียงรายบ้านเกิด”
หลังจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และประสานไปยัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้อายัดตัวผู้ต้องหาคนนี้ในอีกคดีหนึ่ง
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เมื่อตรวจสอบประวัติคดีอาญา พบว่าผู้ต้องหามีประวัติอาชญากรรมทั้งหมด 7 คดี โดยทุกคดีล้วนเป็นคดีลักทรัพย์ คาดว่าผู้ต้องหาตระเวนก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง และคงมีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ ซึ่งผู้ต้องหารายนี้นับเป็นบุคคลเป็นภัยสังคม สร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง จะต้องรีบติดตามจับกุมโดยเร่งด่วน
ผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.และพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.”