วันที่ 19 ส.ค.64 พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. สั่งการพ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังกว่า 60 นาย ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2
เข้าตรวจค้นเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ 10 เป้าหมาย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจ.ชลบุรี
จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 ราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มนายทุน เป็นชาวจีน 3 ราย
2.กลุ่ม เปิดบัญชี เป็นชาวไทย 5 ราย
3.กลุ่มพนักงานทวงหนี้ เป็นชาวไทย 1 ราย
พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 5 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 14 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 13 เล่ม อายัดบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้อง 37 บัญชี
รวมยอดเงินที่อายัดได้ 2.1 ล้านบาท และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต
ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พ.ต.อ.ภาดล เปิดเผยว่า ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปน.ตร.)
ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าได้รับความเดือดร้อนจากแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ กาก้า และ กิโก้ (KAKA , KIKO)
ได้สืบสวนสอบสวนแอปพลิเคชันดังกล่าว ก่อนจะเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 10 จุด ในกทม.และชลบุรี
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ได้สืบสวนจับกุมแก๊งแอปพลิเคชันเงินกู้ตลอดมา ทำให้กลุ่มคนร้ายได้ปรับกลวิธีให้มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
มีการปิดบังอำพรางสถานที่ตั้ง รวมไปถึงมีการว่าจ้างผู้อื่นให้มาเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำความผิด
สำหรับแก๊งแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ “กาก้า – กิโก้” มีเงินหมุนเวียนในระบบ ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 เดือน
มีการยักย้ายถ่ายเทเงินอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม
จากการตรวจค้นครั้งนี้พบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 2 ราย ได้หลบหนี อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
พ.ต.อ.ภาดล ยังกล่าวเตือนประชาชนด้วยว่า อย่าได้หลงเชื่อทำการกู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบต่าง ๆ
เพราะนอกจากจะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมากแล้ว ยังอาจถูกข่มขู่ คุกคาม รวมไปถึงการถูกประจาน และถูกเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ
ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดได้รับข้อความทางโทรศัพท์ หรือ SMS แจ้งให้ชำระหนี้แทนโดยอ้างว่าเคยกู้ยืมหรือเป็นผู้ค้ำประกันให้กับบุคคลอื่น
พร้อมทั้งข่มขู่ว่าถ้าไม่ชำระหนี้ดังกล่าวจะทำให้ติดเครดิตบูโร หากกรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริงขออย่าได้ตื่นตระหนกและหลงเชื่อโอนเงินให้แก่กลุ่มมิจฉาชีพ
ขอให้บันทึกรายละเอียดต่าง ๆ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ , หมายเลขบัญชีธนาคาร แล้วแจ้งเบาะแสมาที่ สายด่วน 1599 (ศปน.ตร.) หรือ สถานีตำรวจใกล้บ้าน