ผู้การโปรด ตม.3 สั่งลุยจับวันเดียวสองหมายหนุ่มแดนมังกรหนีหมายจับซุกไทยฟอกตัว
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 สั่งการให้หน่วยในสังกัดได้แก่ กก.สส.บก.ตม.3, ตม.จว.สมุทรปราการ และ ตม.ชลบุรี สนธิกำลังร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติรายสำคัญ ซึ่งหนีหมายจับต่างประเทศดังนี้
รายที่ 1 พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมกับ พ.ต.อ.สุเมธ เจนวงศ์พิทักษ์ ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วยชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมMr.Sung ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ เรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้าง หลบหนีหมายจับจากประเทศจีน และเข้ามาพำนักในประเทศไทยนานหลายเดือน มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ ด้วยการเปลี่ยนที่พักและสถานอยู่ในหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางจนกระทั่งมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่สมุทรปราการ
รายที่ 2 พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆสิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.กวิณวัชร์ อารยะสุริวงศ์ รอง ผกก.ตม. จว.ชลบุรี ร.ต.อ.พงศ์เจริญ ทองไพบูลย์ รองสว.ตม.จว.ชลบุรี ด.ต.ชัชวาล คุ้มภัย ผบ.หมู่ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกันสืบสวนจับกุม Mr.Li ชาวจีน อายุ 56 ปีฐานฉ้อโกง และถูกกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งเขตซงเจียง นครเซี่ยงไฮ้ ออกประกาศสืบจับไว้
พล.ต.ต.ทรงโปรด ผบก.ตม.3 เปิดเผยว่า บก.ตม.3ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทางการของประเทศจีน ทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้ก่อเหตุในประเทศจีน เมื่อทราบว่าตนน่าจะถูกหมายจับ จึงได้หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย ในขณะนั้นทางการจีนยังไม่ได้ประกาศหมายจับลงในระบบตำรวจสากล จึงมิได้ห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ต่อมาภายหลังจากได้รับข้อมูลการประสานงานแล้ว ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไปสืบจับ
ตัวอย่างเช่น นายซุงทราบว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2560–2562 ระหว่างที่ทำงานอยู่ในบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในประเทศจีน ได้มีการเรียกรับเงินสินบนจากผู้รับเหมา รวมกว่า 800,000 หยวน (เป็นเงินไทยกว่า 3.6 ล้านบาท)อ้างว่าเป็น “ค่าบริการทางเทคนิค” และ “ค่าความช่วยเหลือในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง” ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี เป็นต้น
พล.ต.ต.ทรงโปรด ยังได้กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดประสานข้อมูล กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อติดตามพฤติกรรมของคนต่างด้าวซึ่งแม้อาจเดินทางเข้ามาถูกต้องแล้ว โดยอาศัยสถานะนักท่องเที่ยวหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย แต่เมื่อตรวจสอบพบว่ามีประวัติการกระทำผิด ก็ให้ควบคุมตัวและดำเนินการตาม พรบ.คนเข้าเมือง ตลอดจนกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันคนต่างชาติเหล่านี้ออกไป
