ย้อนอดีต ป๋าต้อย ที่คนใกล้ชิดเรียกกัน เริ่มรับราชการหลังพ้นรั้วสามพราน นรต.32 บรรจุครั้งแรก เมื่อปี 2522 เป็นรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน. พระราชวัง เป็น รอง สว.จราจร พลับพลาไชย 2 รองสวป. สน.พลับพลาไชย 2
เกษียณฯ 3 ปี ชีวิตแฮปปี้มาก
พี่เกษียณเมื่อ 1 ต.ค.59 ถึงตอนนี้ 3 ปีเต็มแล้ว แฮปปี้ มีความสุขมาก ชีวิตวันๆ ปกติก็จะมาอยู่ที่สปอร์ตคลับ มีสนามกอล์ฟ สนามไดร์ฟ อย่างดี มีบ่อทราย มีที่ซ้อมพัต อย่างดี แล้วมีสนามออกรอบสั้นๆ ได้เจอเพื่อน พี่ น้อง
เรียนรู้โลกดิจิทัล
ช่วงที่ยังรับราชการก็เล่นหุ้น ก็เล่นสะเปสะปะ ไม่ค่อยได้เรื่อง แต่พอเกษียณ ได้ศึกษา เข้าคอร์สหลายคอร์สก็รู้สึกดีขึ้น มีหลัก มีเกณฑ์ขึ้น
เปลี่ยนเวย์สมัครเป็นนักบิน
จนไม่รู้จะไปทำอะไร ก็ไปเป็นนักบิน สนุกดี เห็นเพื่อนๆ ทหารเขาไปบินกัน ไปสมัครที่กองบิน 6 ที่ฝูงบิน 604 ที่ดอนเมือง แล้วก็คิดไม่ผิด หลักสูตรเขา นี่ 1 ปี ตอนนี้ก็จวนจะครบปีแล้ว ปล่อยเดี่ยวแล้ว สนุกดี การที่ปล่อยเดี๋ยวนี่ บินไปอยู่คนเดียว บนท้องฟ้า ไม่มีครูอยู่ด้วย มันเป็นอะไรที่ก่อนจะบิน นอนไม่หลับทั้งคืน ก็พูดกับตัวเอง ว่ากูไม่น่าเลย แต่เสร็จแล้วพอแข็งใจบินก็เรียบร้อยดี ครูถ้าไม่มั่นใจ เขาไม่ปล่อยอยู่แล้ว
หัวร่อร่วนแก่ที่สุดในรุ่น
มันท้าทายดีนะ ก็ได้สังคมในกองทัพอากาศกลุ่มหนึ่ง ได้เพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นนักบิน ก็ยังเด็กๆ มีพี่แก่ที่สุดในรุ่น พี่เป็นรุ่นที่ 73 ฝูงบินซันนี่ 604
ประทับใจ ช่วงเป็นสว.สืบทองหล่อ
ช่วงชีวิตราชการที่ประทับใจ น่าจะตอนเป็น สว.สืบสวน ทองหล่อ 4 ปีเต็ม ยิ่งกว่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจนะ 4 ปีเต็ม ไม่มีพักร้อน ไม่มีเสาร์ อาทิตย์ ทำงานทั้งวัน นอนพักสัก 6 ชั่วโมง นอกนั้นคือการทำงาน ลูกน้องรู้จักหมด รู้จักถึงลูกถึงเมีย ก็มีความสุข
คาใจ คดีฆ่าเพราะจับไม่ได้
คดีที่ยังคาใจ ก็น่าจะเป็นคดีที่จับไม่ได้ ลงมาเป็น สว.สืบทองหล่อ วันแรก ครูสุนีย์ เป็นครูยิงปืนของกองปราบ ถูกฆ่า หายตัวไป 2-3 วัน ไม่รู้ไปไหน เขามาแจ้งความ ปรากฏว่าคนใช้มันฆ่าทุบหัวแล้วเอากาละมังบังไว้ ซุกศพไว้ข้างบ้าน 2 วัน
ไอ้ศักดิ์ ฆาตกรชาวเขา
คนร้ายชื่อไอ้ศักดิ์ เป็นชาวเขา อยู่ในเขาที่แม่กะจาน จ.เชียงราย แต่จับไม่ได้ มีข่าวมันที่ไหนก็ไป แค้นมันด้วย คาใจว่ามันอยู่ไหน ทำไมจับมันไม่ได้ มันคงยังไม่ตาย แต่มันหนีเก่ง เอาตัวรอดไปได้
มีอยู่หนหนึ่งคิดว่าใช่แล้ว เราสืบจนกระทั่งได้ว่ามันอยู่จุดนี้ รอบๆ กรุงเทพฯ ก็จะเข้าค้น แต่ไม่เจอ แต่นอกนั้นจับได้หมด
ฝังใจ จะไม่ให้คนร่วยข่มเหงคนจนในชีวิตตำรวจ มีคดีหนึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของพี่ เป็นเรื่องความไม่เป็นธรรมทางสังคมตั้งแต่เป็น ร.ต.ต. พี่ก็ฝังใจมากระทั่งบัดนี้ จากนั้นก็คิดมาตลอดว่าเราจะไม่ปล่อยให้คนรวยมันข่มเหงคนจน
คือหลังจากเกิดเหตุ คนก็ขึ้นป้ายไม่เชื่อถือตำรวจ จะให้ดีเอสไอมาทำแทน พี่ก็บอกว่ายินดีเลย ถ้าหากไม่เชื่อมั่นหน่วยงานเรา จะให้หน่วยงานอื่นมาทำก็ได้
ใช้การสอบสวนนำ
แต่ถ้าเชื่อมั่นผม จะให้ผมทำจะกดดันผมไม่ได้ว่าจะต้องจับใน 7 วัน 5 วัน เพราะบางคดีเป็นปีถึงจะจับได้ก็ได้ แต่ผมรับปากว่าผมทำเต็มที่ แล้วพักหนึ่งพอเริ่มจับอะไรได้ กระทั่งสามารถจับผู้จ้างวานได้
พอเรารู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร ไม่จับ แต่เรียกตัวมาสอบ ส่วนมากตำรวจมักจะไม่ค่อยทำแบบนี้ พอเล็งว่าไอ้นี่เป็นคนร้าย ก็ไม่ยอมสอบ รอเอาตัวมาเลย
ถ้าเราไปจับ มันอาจจะไม่ให้การ พอให้การในฐานะพยานแล้วมีประโยชน์ พอนั่นปุ๊บก็ออกหมายจับ หนีไปสักพักหนึ่งแล้วก็มามอบตัว
ฏีกาประหารคนสั่งฆ่า
ศาลลง ประหารหมด ฎีกาแล้ว ประหารหลายคน ติดคุกตลอดชีวิตก็หลายคน ใช้การสอบสวนหลายลักษณะ ใช้กล้องซีซีทีวี ไม่ได้ยินเสียงก็เอาเจ้าหน้าที่ภาษาใบ้ มาช่วยแปลลักษณะท่าทางปาก เขาพูดกันเรื่องอะไร แล้วมีเจ้าหน้าที่รับรอง
คือเราเห็นจากภาพ ท่าทาง มีการประชุมกัน ก็เอาคนมาแปลใช้ล่ามภาษามือ อ่านปาก ใช้การสอบสวนเยอะ
สยบกำนันอิทธิพลเมืองกาญจน์
อีกคดีคือฆ่าที่เมืองกาญจน์ มีกำนันคนหนึ่งเป็นผู้มีอิทธิพล ระดับเดียวกับกำนันเป๊าะ ไปฆ่าหัวคะแนน ตอนนั้นพี่เป็นรองผู้การกองปราบ
ก็ไหว้ศพสัญญาว่าผมไม่กลับ จนกว่าผมจะจับได้ ก็สอบๆ ไปจนมีหลักฐาน กำนันคนนี้ เป็นคนสั่ง
น๊อตเกือบหลุด ศาลไม่เซ็นหมายจับ
ทุกคนหันมาที่พี่ ถามว่าพี่จะเอายังไง คือถ้าพี่เดินกลับมันก็จบ เพราะเขาคือผู้มีอิทธิพล ก็เลยต้องเดินหน้าต่อ ขอหมายจับเลยคืนนั้น
พี่ก็โกรธ เพราะเดี๋ยวมันหนี คดีอาจจะพลิก ก็เดินออกมานอกบ้าน แต่ไอ้ต๊อก(พ.ต.ท.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ รองผกก.2 ป.ในขณะนั้น) ไม่ยอมออก
สุดท้ายท่านเข้าใจ เซ็นให้
สักพักไอ้ต๊อก ออกมาบอกว่า พี่ต้อย ศาลท่านเซ็นแล้ว ถามว่ามึงทำไงว่ะ ไอ้ต๊อกบอก
ผลสุดท้าย ติดคุกตลอดชีวิต
พอจับปั๊บ ดำเนินคดีปั๊บ ผู้การจังหวัด โทร.มาหาพี่ บอกไอ้ต้อย มึงเอาไปทำที่กองปราบฯได้มั้ย รัฐมนตรีอะไรต่ออะไร โทร.มาหากู บอกให้ฝากให้ดูแลให้ช่วย
พี่ก็บอกว่าได้ ก็ทำเรื่องขอพี่วินัย ผู้การกองปราบฯ โอนคดีวันนั้นเลย กำนันก็ติดคุกตลอดชีวิตไป คดีนี้ นี่ก็ประทับใจ
ชีวิตตำรวจ ควรอยู่ ป.สักครั้ง
ช่วงอยู่กองปราบ ก็มันส์ กองปราบนี่เป็นที่ๆตำรวจสมควรจะไปอยู่สักครั้ง จะได้ความรู้กว้างขวาง หมายถึงนักสืบรุ่นใหม่ เด็กๆ หลังจากมีประสบการณ์ในการทำงานพอสมควรแล้วในนครบาล ผ่านงานสอบสวนอะไรมาพอสมควรแล้ว ควรจะไปอยู่กองปราบ เพราะจะได้สัมผัสกับเจ้านายจำนวนมาก
ต้องเป็นระดับสารวัตรขึ้นไป
จะรู้จักกับรองผู้การ 10 คน ยังมี ผกก.อีก 6-8 คน จะรู้จักใกล้ชิด ถ้าเรามีฝีมือในการสอบสวน มีฝีมือในการสืบสวน เขาต้องเรียกใช้ นอกจากนี้ ถ้ามีคดีสำคัญ รอง ผบช.หรือ ผบช. เขาก็จะเรียกเลย ไอ้หนูนั่น ไอ้หนูนี่
กับลูกชาย นิว-สิทธิศักดิ์ ที่สืบทอดทายาทสีกากี ต่อจากผู้เป็นพ่อ ตรงนี้ผู้ช่วยต้อยบอกว่าตอนเป็นนักเรียนไม่ห่วงหรอก แต่พอจบมาแล้วรับราชการนี่ก็เป็นห่วง เพราะมันมีอะไรอีกเยอะแยะ เพราะเราเห็น เราผ่านมา แต่เขาต้องการมาของเขาเอง ได้แนะนำเขาแล้ว
เขาสอบ 3 ปีกว่าจะติดเตรียมทหาร ปีที่ 3 เราก็บอกว่า เปลี่ยนแนวเถอะลูก เราช้าแล้ว เขาก็บอกว่าเป็นสิทธิของเขา
แนะลูกชาย ต้องเป็นพงส.ก่อน
ก็สอนนะ ว่ายังไงก็ต้องเป็นพนักงานสอบสวน อย่างน้อยๆ 3-4 ปี เพราะมีโอกาสรับใช้ชาวบ้าน เพราะเขาเดือดร้อน ต้องไปรับใช้เขาตรงนี้ แล้วจะได้ความรู้ หลังจากมีความรู้ต่างๆจะชอบแนวไหน ก็ค่อยไป
ชาวบ้านคือญาติพี่น้องของเรา
กับชาวบ้าน พี่สอนลูก ให้ทำเหมือนกับเป็นญาติพี่น้องของเรา อย่าไปรังแก อย่าไปพูดจาไม่ดี อย่าไปตวาด เขาเดือดร้อนมา ไม่ได้สอนแต่ลูกอย่างเดียว ก็สอนตำรวจรุ่นลูกด้วย
ก่อนจบสนทนาวันนั้น ผู้ช่วยต้อยปิดท้ายเป็นห่วงตำรวจสายสอบสวนฆ่าตัวตาย
ที่ฆ่าตัวตายกันหลายคน ดูแล้ว เกิดจากผู้บังคับบัญชาไม่ใส่ใจ ส่วนมากอาจจะเกิดจากชั้นประทวน พอสอบนิติศาสตร์ จบแล้วสอบเป็นนายตำรวจ ตร.ก็ดูแล้วว่าไอ้นี่ จบนิติศาสตร์ ก็ให้ไปเป็นพนักงานสอบสวน