วันที่10ก.ค.63 พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ
ร่วมกับกองกำกับการสืบสวน. ภ.จว.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สำโรงใต้
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเงินกู้นอกระบบ คือนายระพีพงษ์ อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาล 3 หมาย (หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา)
คือ
1. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 68/2559 ลงวันที่ 29 เม.ย.2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ยักยอก”
2 .ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 69/2559 ลงวันที่ 29 เม.ย.2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ยักยอก ฉ้อโกง”
3. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 181/2559 ลงวันที่ 29 มิ.ย.2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน
“ฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์”
ประวัติก่อเหตุ
ปี 2552ถูกจับกุมที่สภ.เมืองนครปฐม ข้อหา ยักยอกทรัพย์
ปี 2557 ถูกจับกุม ที่ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ข้อหา ฉ้อโกง
ปี 2560 ถูกจับกุมที่สภ.เมืองนครปฐม ข้อหา ยักยอกทรัพย์
ปี 2562ถูกจับกุมที่สภ.เมืองนครปฐม ข้อหา ยักยอกทรัพย์
พฤติการณ์คือ มีผู้เสียหายร้องเรียนศูนย์ ศปน.ตร. ว่าได้นำรถกระบะของตนเอง ไปจำนำไว้กับชายไทยไม่ทราบชื่อ50,000 บ.
โดยชำระดอกเบี้ยเดือนละ 6,000 บ. ทุกเดือน ( ร้อยละ 12. ต่อเดือน). จนกระทั่งเอายอดเงิน50,000 บ. มาปิดเงินกู้
ผู้ร้อง ได้ติดต่อกับเพจ “เงินกู้ เงินด่วน”และพูดคุยผ่านโปรแกรมไลน์ เพื่อขอกู้เงิน
โดยวันที่ 10 เม.ย.63 ผู้ให้กู้ ได้ให้ชายไทย อายุประมาณ 28 ปี มาพบกับผู้เสียหาย เพื่อนำเงิน 50,000 บ. มาให้ โดยจะหักค่าดอกเบี้ยและค่าที่จอดรถ 8,000 บาท
เหลือส่งมอบเงินให้ผู้เสียหาย 42,000 บ. จากนั้นขับรถกระบะคันดังกล่าวไป
ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยแต่ละงวด ผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายระพีพงษ์ (ผู้ต้องหา) และจ่ายดอกเบี้ยแล้ว 3 ครั้ง ผู้ต้องหาจะหักส่วนต่าง และโอนเงินต่อให้นายทุนต่อไป
ต่อมา ผู้เสียหายต้องการไถ่ถอนรถยนต์คืน แต่ไม่สามารถติดต่อนายระพีพงษ์ฯ ได้ ทำให้ทราบว่า นายระพีพงษ์ฯ ไม่ได้มีเจตนาเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
แต่เจตนาหลอกลวงผู้เสียหายให้ได้ไปซึ่งรถยนต์กระบะของผู้เสียหาย กระทั่งจับกุมนายระพีพงษ์ฯ ได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา. มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป