วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ดร.สัมนาการณ์ บุญเรือง ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ติดตาม ให้ความช่วยเหลือสถานการณ์น้ำท่วมสถานศึกษา ในจังหวัดบุรีรัมย์ จากสถานการณ์พายุโนรูที่เคลื่อนเข้าไทยตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 28 กันยายน 2565 ทำให้มีฝนตกหนัก จนถึงขณะนี้ฝนยังคงตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้มีน้ำทะลักเข้าท่วมสถานศึกษาของจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 29 แห่ง ดังนี้
โรงเรียนมีชัยพัฒนา โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา โรงเรียนดงพลองพิทยาคม โรงเรียนบ้านกอกดอนพยอม โรงเรียนบ้านกุดโคลน โรงเรียนบ้านโจด โรงเรียนบ้านชำแระ โรงเรียนบ้านตะกุดตาสา โรงเรียนบ้านตะขบ โรงเรียนบ้านท่าเรือ โรงเรียนบ้านแท่นพระ โรงเรียนบ้านโนนค้อ โรงเรียนบ้านโนนยาง โรงเรียนบ้านโนนสว่าง
โรงเรียนบ้านบุ่งเบา โรงเรียนบ้านยางน้ำใส โรงเรียนบ้านสระกุด โรงเรียนบ้านสวายสอ “ไกรปัญญานุเคราะห์” โรงเรียนบ้านหนองปุนสำโรง โรงเรียนบ้านหนองรี “มิตรภาพที่ 225” โรงเรียนบ้านหนองแวง โรงเรียนบ้านหนองหัวควาย โรงเรียนบ้านห้วยศาลา โรงเรียนเมืองแกพิทยาคม โรงเรียนบ้านโนนไฮ โรงเรียนลำดวนพิทยาคม โรงเรียนวัดแจ้ง (เศียรคุรุราษฎร์บำรุง) โรงเรียนวัดบ้านพลับ โรงเรียนวัดบ้านหนองเมืองต่ำ
จากการสำรวจเบื้องต้น โรงเรียนมีชัยพัฒนา บ้านกวางงอย ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เป็นพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบในระดับรุนแรง ระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร บางพื้นที่รถไม่สามารถนำเข้าไปในพื้นที่ของโรงเรียนได้เนื่องจากปริมาณน้ำสูงต้องใช้เรือแทน
เบื้องต้นผู้บริหาร ครู นักเรียน คนในชุมชน และทหารจากมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ช่วยกันขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนขึ้นที่สูงได้เป็นบางส่วน ทีมงานและผู้เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้เร่งให้การช่วยเหลือและให้เฝ้าระมัดระวัง รวมถึงสังเกตการณ์และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเร็วที่สุด
นโยบายช่วยเหลือสถานศึกษาที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย ซึ่งผู้เรียน ผู้ปกครอง ครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับผลกระทบ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลน้ำท่วมภายในจังหวัดขึ้น เพื่อเร่งทำการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือ
ตามข้อสั่งการเร่งด่วนของท่านตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายอรรถพล สังขวาสี มีความห่วงใยสถานศึกษาและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ให้ศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ความช่วยเหลือตามสถานการณ์และเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบทั่วทั้งประเทศให้ได้รับการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและเร็วที่สุด